Orbix Trade ปลื้มส่วนแบ่งการตลาดโต 5 เท่า

Date:

บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด (Orbix Trade Co., Ltd.) ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในนาม “orbix” ให้บริการด้วยมาตรฐานและความปลอดภัยระดับสากล  เปิดตัวครบรอบ 1 ปี สามารถดันส่วนแบ่งการตลาดด้านยอดเทรดโตถึง 5 เท่า จากการเพิ่มประสบการณ์ในการใช้งานให้กับลูกค้า โดยมีการพัฒนาด้านระบบและการให้บริการอยู่เสมอ รวมถึงมีการเพิ่มสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ ๆ เข้าศูนย์ซื้อขายกว่า 10 เหรียญ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน แสดงถึงความตั้งใจในการให้บริการและพร้อมขยายตัวไปกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

นายสรัล ศิริพันธ์โนน รักษาการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด เปิดเผยว่า หลังเปิดตัว orbix มาครบ 1 ปี ด้วยแนวคิด “เมืองหลวงแห่งโอกาสของคริปโตเนียน” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทั้งตัวผลิตภัณฑ์ ฟีเจอร์ กิจกรรมทางการตลาด ตลอดจนการพัฒนาระบบต่าง ๆ และเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าถึงการบริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม  และยังเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ได้มาตรฐาน ISO ถึง 3 ตัว โดยให้บริการที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลด้านการจัดการความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ได้แก่ ISO 27001:2013, ISO 27701:2019 และ ISO 22301:2019 เพื่อความปลอดภัยทางการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง พร้อมทั้งยังมีทีมงานให้บริการช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง โดย orbix สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดด้านมูลค่าการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า สะท้อนถึงความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ orbix 

ในปี 2567 orbix ได้ออกแบบฟีเจอร์ใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของลูกค้า เช่น Wallet Lock ระบบล็อกกระเป๋าสองชั้น ที่ผู้ใช้งานสามารถเปิด-ปิด Wallet ได้ด้วยตนเอง Price Alert ระบบตั้งเตือนราคาสินทรัพย์ดิจิทัลแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องเฝ้าดู ทำให้ไม่พลาดทุกโอกาสการซื้อขาย โดยสามารถเลือกเหรียญที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้ด้วยตนเอง และ orbix Balance* ระบบช่วยคำนวณต้นทุนเหรียญแบบอัตโนมัติ ทำให้รู้กำไรขาดทุนทุกเหรียญโดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ

นอกจากนี้ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ orbix ได้เพิ่มความสะดวกโดยมีช่องทางการยืนยันตัวตน (KYC) ผ่านระบบ NDID ของธนาคารต่าง ๆ AIS Shop ทุกสาขา และแอปพลิเคชัน K+ สำหรับลูกค้าธนาคารกสิกรไทย ทั้งยังมีการจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าเก่า

นายสรัล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นปรับตัวและเติบโตในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ “Easy & Trustworthy” ผ่านระบบนิเวศธุรกิจ (Ecosystem) ให้สามารถเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและลูกค้าสามารถมั่นใจได้ในแบรนด์

ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบ 1 ปี หลังการเปิดตัว เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด จึงได้จัดแคมเปญ 2 สุดพิเศษ คือ แคมเปญที่ 1 “First Trade Campaign” เทรดสนุกพร้อมรับรางวัลกับ orbix ได้ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน เพียงสะสมปริมาณการซื้อขายครบ 20,000 บาท ลูกค้าจะได้รับ Cashback มูลค่า 200 บาท จำกัดจำนวน 200 สิทธิ์ โดยการกรอกโค้ด “TVC200” เพื่อยืนยันสิทธิ์การเข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่วันนี้ -30 พ.ย. 67

และแคมเปญที่ 2 “เปิดบัญชีและยืนยันตัวตน (KYC) สำเร็จวันนี้ orbix ใจดี มอบ Cashback 200 บาท ต่อเนื่อง!”  เพียงเปิดบัญชีและยืนยันตัวตน (KYC) สำเร็จวันนี้รับ Cashback 200 บาท สำหรับลูกค้าทุกท่านที่ยืนยันตัวตน (KYC) หรืออัปเดตข้อมูลส่วนตัวให้เป็นปัจจุบัน โดยกรอกโค้ด KYC200 ในช่อง Promo Code บนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน orbix เท่านี้ก็มีสิทธิ์รับรางวัล Cashback ไปทดลองเทรดได้เลย จำกัดจำนวน 300 สิทธิ์   ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. – 31 ธ.ค. 67 โดยทั้งสองแคมเปญ สามารถลงทะเบียนและยืนยันตัวตน (KYC) ได้ที่ https://www.orbixtrade.com/launch-app  พร้อมติดตามข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ ได้ เพิ่มเติมที่ www.orbixtrade.com/blog

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

TQM มอบฟรี “ประกันภัยรถยนต์ตามคน” ขับคันไหนก็คุ้มครอง

TQM ร่วมกับ MSIG ส่งความสุขท้ายปี มอบฟรี “ประกันภัยรถยนต์ตามคน” ขับคันไหนก็คุ้มครอง

KBTG เปิดตัวหลักสูตรระดับปริญญาโทร่วมกับ KBTG Kampus

KBTG จับมือ 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย เปิดตัวหลักสูตรระดับปริญญาโทร่วมกับ KBTG Kampus

KBank Private Banking ชี้โอกาสกองทุนอสังหาฯ

KBank Private Banking จับมือ CG Capital ชี้โอกาสสร้างพอร์ตเติบโตระยะยาวกับกองทุนอสังหาฯ เจาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม รองรับท่องเที่ยว

AIS ขายหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท

AIS โชว์ศักยภาพความเชื่อมั่นนักลงทุน ขายหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท ตอกย้ำผู้นำอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย