นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารทิสโก้ประเมินว่าปี 2568 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนโดดเด่น หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งประธานาธิบดีหลายฉบับที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจในประเทศสหรัฐฯ ตามที่หาเสียงไว้ ทำให้นักวิเคราะห์จาก Bloomberg คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ (S&P500 Index) ปี 2568 เติบโตสูงถึง 14% YoY ดีกว่าตลาดหุ้นโลก (MSCI ACWI) ที่กำไรบริษัทจดทะเบียนโต 8% YoY
นอกจากนี้ หากลงลึกรายกลุ่มอุตสาหกรรมธนาคารทิสโก้มองว่าหุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐฯ เป็นกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างมาก เพราะได้รับประโยชน์จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในช่วงขาลง รวมถึงนโยบาย Financial Deregulation จะช่วยผ่อนคลายกฎเกณฑ์ในการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงิน ทำให้สามารถขยายธุรกิจได้มากขึ้น ดังนั้น ธีมลงทุนที่ธนาคารทิสโก้แนะนำเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากนโยบายทรัมป์ คือ กองทุนหุ้นสหรัฐฯ และกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงินสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ ธนาคารทิสโก้แนะนำให้เลือกกองทุนที่มี ‘นโยบายการลงทุนเชิงรุก’ มากกว่ากองทุนที่มีนโยบายการลงทุนตามดัชนี เพราะไม่ใช่ทุกอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ จะเติบโตได้ดี อีกทั้งบางอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากนโยบายของทรัมป์ นอกจากนี้ ปี 2568 เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสเติบโตในอัตราชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งกองทุนที่มีนโยบายเชิงรุกจะเปิดโอกาสให้ผู้จัดการกองทุนเฟ้นหาหุ้นผู้ชนะมา
สร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากดัชนีให้กับพอร์ตการลงทุน จากปัจจัยดังกล่าวธนาคารทิสโก้ จึงคัดกองทุนเด่นให้ลูกค้าลงทุน 3 กองทุน คือ 1. กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ยูเอส โกรท ฟันด์ (UUSA) 2. กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Blue Chip Equity (ES-USBLUECHIP) และ 3. กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล (TUSFIN-A)
สำหรับรายละเอียดกองทุนแนะนำลงทุนทั้ง 3 กองทุนมี ดังนี้
• กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ยูเอส โกรท ฟันด์
กองทุนนี้มีจุดเด่นตรงที่ผู้จัดการกองทุนจะเน้นคัดเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว และกระจายน้ำหนักการลงทุนที่เหมาะสม โดยใช้หลักการวิเคราะห์ด้านปัจจัยพื้นฐาน
และการวิเคราะห์แบบ Bottom – up เพื่อเลือกหุ้นที่สนใจ โดยเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีความสามารถในการเติบโตของรายได้หรือกำไรสูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาภาพรวมอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจประกอบการลงทุนด้วย อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับปัจจัยด้าน
ESG เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ยูเอส โกรท ฟันด์ (UUSA) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในกองทุน JPMorgan Funds – US Growth Fund Class I (acc) – USD โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักจะลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตหรือแนวโน้มการเติบโต (Growth style) ของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา
• กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Blue Chip Equity
กองทุนนี้มีจุดเด่นตรงที่กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) เป็นอันดับต้นๆ ของโลก เป็นบริษัทที่มีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง
อีกทั้งมีงบการเงินที่ดีและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าพร้อมกับมีขีดความสามารถในการแข่งขัน จากการเป็น “เจ้าตลาด” หรือครองส่วนแบ่งการตลาดในระดับสูง
กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Blue Chip Equity (ES- USBLUECHIP) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในกองทุน T. Rowe Price Funds SICAV – US Blue Chip Equity Fund Class I โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ลงทุนในหุ้นชั้นดีของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยกลยุทธ์การลงทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก โดยกองทุนหลักมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด
• กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล
จุดเด่นของกองทุนนี้คือเน้นลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงินในสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มย่อย คือ 1. กลุ่มผู้ให้บริการด้านการเงิน
เช่น Berkshire Hathaway และ PayPal 2. กลุ่มธนาคาร เช่น JPMorganChase และ Citigroup 3. กลุ่มธุรกิจประกัน เช่น Chubb และ 4. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เช่น Goldman Sachs และ Morgan Stanley ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากนโยบายของทรัมป์ ทั้งในเรื่องการปรับลดภาษีนิติบุคคล และการผ่อนปรนเงื่อนไขในการดำเนินธุรกิจ แถมได้รับผลกระทบในระดับจากสงครามการค้าอีกด้วย
กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล (TUSFIN-A) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในกองทุน Financial Select Sector SPDR Fund ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Financial Select Sector
อย่างไรก็ตาม กองทุน UUSA, ES-USBLUECHIP และ TUSFIN-A ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา