บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ เคลียร์งบการเงินปี 2567

Date:

นายฉัตรพล ศรีประทุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับปรุงรายการทางบัญชีโดยปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือของยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และแบตเตอรี่ โดยจะเป็นการรับรู้ผลทางบัญชีในไตรมาส 4/2567 ครั้งเดียวเพื่อการเริ่มต้นใหม่ในปี 2568

นอกจากนี้ กระแสเงินสดของบริษัทยังคงเป็นบวกหากไม่รวมรายการปรับปรุงทางบัญชีครั้งนี้ ปีนี้เราทำกำไรได้มากกว่า 2,200 ล้านบาท”

ขณะเดียวกันการรับรู้ผลการปรับปรุงรายการทางบัญชีในครั้งนี้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัท ในการแก้ไขธุรกิจที่ประสบปัญหาอันได้แก่ ธุรกิจประกอบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และธุรกิจแบตเตอรี่

นายฉัตรพล เปิดเผยว่า  จากผลประกอบการในปี 2567 เรามีกระแสเงินสดมากกว่า 8,000 ล้านบาท และหากไม่รวมการปรับปรุงรายการทางบัญชีครั้งนี้ บริษัทมีกำไรมากกว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงิน นอกจากนี้ เรากำลังดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ธุรกิจที่ได้ประกาศไว้เมื่อต้นปี ในการปรับโมเดลธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และธุรกิจแบตเตอรี่ โดยการสร้างความร่วมมือกับผู้นำระดับโลกในแต่ละสายธุรกิจ

นายฉัตรพล กล่าวว่า เราได้ร่วมมือกับหนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์ประเภทพิเศษรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน คือ บริษัท เฉิงหลี่ สเปเชียล ออโตโมบิล จำกัด (Chengli Special Automobile Co., Ltd.) ในการพัฒนาสินค้าและผลิตจากโรงงานของเรา

บริษัท เฉิงหลี่ เป็นผู้ผลิตและส่งออกรถประเภทพิเศษมากกว่า30,000 คันไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก “และสำหรับธุรกิจแบตเตอรี่ ขณะนี้เรากำลังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบทางกฎหมายของข้อตกลงกิจการร่วมค้าของเรากับหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของจีน เพื่อใช้โรงงานของเราในประเทศไทยสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เพื่อรองรับการผลิตสำหรับส่งออกไปในสหรัฐอเมริกาและยุโรป และตอนนี้เรากำลังตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภาษีระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา” นายฉัตรพลกล่าว

ผลประเมินความยั่งยืน ESG โดย MSCI ที่เพิ่มขึ้น

EA ได้รับการจัดอันดับด้านความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จากสถาบัน MSCI ESG Research หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือในด้านดัชนีความยั่งยืนระดับนานาชาติ โดยได้รับการปรับระดับจาก A สู่ระดับ AA และบริษัทได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น “ผู้นำในกลุ่มธุรกิจประเภทเดียวกันในด้านความพยายามด้านเทคโนโลยีสะอาด”

คุณฉัตรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราภูมิใจที่ได้รับการยกระดับจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความพยายามของเราที่จะดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของธุรกิจ”

เกี่ยวกับ EA

การดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ EA ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตเชื้อเพลิงจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ธุรกิจไบโอดีเซล โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีด้านระบบกักเก็บและกระจายพลังงานไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่อุตสาหกรรม ธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจประกอบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เช่น รถบรรทุกไฟฟ้า รถโดยสารไฟฟ้า และเรือโดยสารไฟฟ้า

EA เปิดเผยเมื่อเดือนมกราคม 2568 บริษัทฯ กำลังมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่ทำกำไรสูง ได้แก่ ธุรกิจไบโอดีเซล โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นรายเดียวในประเทศไทยที่มีกระแสเงินสดเป็นบวก ธุรกิจเหล่านี้รวมกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท ในขณะเดียวกัน EA ได้หยุดหรือปรับลดขนาดธุรกิจที่ขาดทุน 2 ส่วน ได้แก่ การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และการผลิตแบตเตอรี่ พร้อมทั้งปรับโครงสร้างของทั้ง 2 ธุรกิจ โดยมุ่งหาพันธมิตรระดับโลกที่สามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขยายตลาดไปยังต่างประเทศ

ส่วนอธิบายผลการดำเนินงาน (เพิ่มเติม)

บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมรายการพิเศษ) เป็นบวก และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง สะท้อนถึงความมั่นคงของธุรกิจหลัก

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการบันทึกผลขาดทุนสุทธิที่กว่า 4,600 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก การปรับปรุงทางบัญชีที่ไม่ใช่เงินสด (one-time non-cash accounting write-off) จำนวนมากกว่า 9,000 ล้านบาท โดยรายการพิเศษดังกล่าวส่วนใหญ่เป็น การสำรองค่าเผื่อการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดหรือการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท

นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน อธิบายว่า “แม้จะมีการปรับปรุงทางบัญชีดังกล่าว บริษัทฯ ยังคงมี EBITDA (ไม่รวมรายการพิเศษ) ที่เกือบ 8,000 ล้านบาท และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกที่กว่า 8,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง” 

นอกจากนี้ กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ (ไม่รวมรายการพิเศษ) อยู่ที่มากกว่า 2,200 ล้านบาท แม้ว่าจะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจหลักของบริษัทยังคงดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง

“โครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ ได้รับการปรับปรุงให้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงมากขึ้น และการ write-off ดังกล่าว Book Value ต่อหุ้น (BVPS) คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8 บาท ซึ่งช่วยให้งบดุลสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ได้ดียิ่งขึ้น” นายวสุกล่าวเพิ่มเติม

บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าดำเนินกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

แผนปี 68 เพอร์เฟค ตั้งเป้ายอดขาย 11,000 ล้าน

แผนปี 68 เพอร์เฟค ตั้งเป้ายอดขาย 11,000 ล้าน รายได้ 10,000 ล้าน เปิด 7 โครงการใหม่ รุกสู่ธุรกิจรับสร้างบ้าน

ซีอีโอหญิงแกร่ง ผู้ริเริ่มคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้รายแรกในประเทศไทย

ซีอีโอหญิงแกร่ง ผู้ริเริ่มคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้รายแรกในประเทศไทย เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ผ่านแนวคิด “สร้างให้เหมือนอยู่เอง” เน้นมาตรฐานคุณภาพ

สินเชื่อกรุงไทยบ้านแลกเงิน รุกตลาดภูมิภาค

สินเชื่อกรุงไทยบ้านแลกเงิน รุกตลาดภูมิภาค จัดคาราวานลงพื้นที่ภาคเหนือเพื่อการเข้าถึงบริการการเงินอย่างทั่วถึง

SME D Bank ลุยหนุนเอสเอ็มอีถึงสินเชื่อ Soft Loan 3% ต่อปี

SME D Bank ลุยหนุนเอสเอ็มอีถึงสินเชื่อ Soft Loan 3% ต่อปี ช่วยลดต้นทุนเพิ่มศักยภาพเติบโตยั่งยืน