KTAM ปล่อย 3 กองทุน “Thai ESGX”

Date:

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) เปิดเผยว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพราะนอกจาก ThaiESG เดิมแล้ว เรายังได้สิทธิประโยชน์เพิ่มจาก Thai ESGX ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้มีการลงทุนระยะยาวเพิ่ม และเพื่อเป็นการรองรับการโอนจากกองทุน LTF อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายของตลาดทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทย แต่เรามองว่าตลาดหุ้นไทยในตอนนี้               อยู่ในช่วงค่อนข้างลึกและอยู่ในช่วงสร้างฐานใหม่ การลงทุนในเวลานี้จึงนับว่าเป็นจังหวะที่ดีของการลงทุน นอกจากนี้ กองทุน Thai ESGX ยังเป็นหนึ่งในกลไกในการสร้างตลาดทุนไทยให้มีความแข็งแกร่ง ซึ่งจะนำไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจที่ดีด้วยเช่นกัน

บริษัทฯ ได้เปิดเสนอขายกลุ่มกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thailand ESG Extra Fund: Thai ESGX) จำนวน 3 กองทุน แบ่งเป็นชนิด Class D สำหรับเงินลงทุนใหม่ และชนิด Class L สำหรับเงินลงทุนที่สับเปลี่ยนจาก LTF โดยเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 2 – 8 พ.ค. 68 และเปิดให้นักลงทุนที่ต้องการสับเปลี่ยนจาก LTF สามารถสับเปลี่ยนได้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.  – 30 มิ.ย. 68 นี้เท่านั้น โดยทั้ง 3 กองทุนจะมีทั้งประเภทกองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไทย และกองทุนรวมผสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์อื่นๆ รวมถึงสินทรัพย์ในต่างประเทศเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุน โดยกองทุนทั้งหมดมีการบริหารกองทุนแบบเชิงรุก (Active Management) ประกอบด้วย 

กองทุนเปิดกรุงไทย อิควิตี้ พลัส 70/30 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KTEQ70PLUSX) (ระดับความเสี่ยง 5) เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ mai โดยเน้นบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV และตราสารหนี้ ESG โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินกว่า 30% ของ NAV โดยผู้จัดการกองทุนอาจพิจารณานำเงินบางส่วนไปลงทุนในต่างประเทศหรือสินทรัพย์อื่นๆ ตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 20% ของ NAV เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ ปานกลางค่อนข้างสูง และผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนบางส่วนไปยังตราสารหนี้ 

กองทุนเปิดกรุงไทย อิควิตี้ พลัส ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KTEQPLUSX) (ระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ mai โดยเน้นบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยอาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศหรือสินทรัพย์อื่นๆ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 20% ของ NAV ตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และผู้ที่ต้องการหาโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์อื่น หรือในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 

และกองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นปันผล ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KTEQDIVX) (ระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ mai ที่มีปัจจัยพื้นฐาน ผลการดำเนินงานที่ดี มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี สมํ่าเสมอ และ/หรือ มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต โดยเน้นบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยจะเน้นลงทุนในประเทศเท่านั้น เหมาะกับผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง และผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทยในกลุ่ม ESG ที่ประวัติการจ่ายปันผลที่ดี 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดโปรโมชันสำหรับกลุ่มกองทุน Thai ESGX ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2568 นี้ โดยผู้ลงทุนที่ลงทุนใหม่ หรือผู้ลงทุนที่สับเปลี่ยนจาก LTF ไปยังกองทุน Thai ESGX ทุก ๆ ยอดเงินลงทุนสุทธิ 50,000 บาท และคงยอดเงินลงทุนสุทธิไว้ถึงวันที่ 30 เม.ย. 2569 จะได้รับหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส (KTSTPLUS) (ความเสี่ยงระดับ 4) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่า ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่สามารถลงทุนได้ โดยเฉลี่ยอายุไม่เกิน 1 ปี  จำนวน 100 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) ศึกษาข้อมูลโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่ โปรโมชันสำหรับชนิดเงินลงทุนใหม่ https://bit.ly/4jxdAHH  ชนิดสับเปลี่ยน LTF https://bit.ly/4jSXKH0

สำหรับกองทุน Thai ESGX ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ แบ่งเป็น 2 วงเงิน ได้แก่ วงเงินลดหย่อนที่ 1 คือ เงินลงทุนใหม่ที่ลงทุนภายในเดือน พ.ค. – มิ.ย. 68 นี้ โดยใช้สิทธิลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุด 300,000 บาท และต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปี (นับวันชนวันตั้งแต่วันที่ลงทุน) 

วงเงินลดหย่อนที่ 2 คือ เงินที่สับเปลี่ยนจากกองทุน LTF เดิม ภายใน พ.ค. – มิ.ย. 68 นี้เช่นกัน สูงสุด 500,000 บาท แบ่งเป็น     ปี 2568 ลดหย่อนสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท และปีที่ 2-5 คือ ปี 2569 – 2572 สูงสุดได้ไม่เกินปีละ 50,000 บาท และต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปี (นับวันชนวัน ตั้งแต่วันที่รายการสับเปลี่ยนมีผล) ทั้งนี้ นักลงทุนที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในวงเงินลดหย่อนที่ 2 นี้ จะต้องสับเปลี่ยนหน่วย LTF ที่ถือครองของทุกกองทุน ทุกบลจ. ที่มีอยู่ทั้งหมด ณ สิ้นวันที่ 11 มี.ค. 68 ไปยัง Thai ESGX ทั้งหมดภายในระยะเวลาที่กำหนด

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือธนาคารกรุงไทยและผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี) หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn

ปัจจัยความเสี่ยงของกลุ่มกองทุน Thai ESGX ที่สำคัญ : ความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาตราสาร ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้าน ESG ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร ความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ความเสี่ยงจากการลงทุนใน Digital Token ความเสี่ยงด้านการกระจุกตัวของการลงทุน และความเสี่ยงด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

อลิอันซ์ อยุธยา ประกาศความสำเร็จปี 67 โตแกร่งเหนือตลาด

อลิอันซ์ อยุธยา ประกาศความสำเร็จปี 67 โตแกร่งเหนือตลาดเดินหน้าผสานพลัง One Allianz Ayudhya เสริมแกร่งทุกมิติ ตอกย้ำผู้นำธุรกิจประกันภัยครบวงจร

นายกฯ เผย เร่งเคลียร์ไซด์งาน ตึกสตง.ถล่ม

นายกฯ เผย เร่งเคลียร์ไซด์งาน ตึกสตง.ถล่ม ยืนยันเตรียมพร้อมทุกระบบ หากเกิดแผ่นดินไหวอีก

อลิอันซ์ ชี้ระบบบำนาญทั่วโลกต้องมีการปฏิรูป

อลิอันซ์ ชี้ระบบบำนาญทั่วโลกต้องมีการปฏิรูปอย่างจริงจัง ไทยต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วน

อลิอันซ์ อยุธยา เสิร์ฟรอยยิ้ม ผ่านกิจกรรม Family Day 2025

อลิอันซ์ อยุธยา เสิร์ฟรอยยิ้มและความอบอุ่น ผ่านกิจกรรม Family Day 2025 ชวนลูกค้าคนพิเศษสนุกยกครอบครัว ณ สวนสนุกดรีมเวิลด์