
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยถึงการเปิดขายหน่วยลงทุน Thai ESGX เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 และการเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) สับเปลี่ยนมาเป็น Thai ESGX ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 พบว่า ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ยังพบว่า กลุ่มผู้ลงทุนอายุ 41 – 60 ปี เป็นกลุ่มหลักที่เข้ามาลงทุนใน Thai ESGX ทั้งในรูปแบบการสับเปลี่ยนจาก LTF และการลงทุนใหม่
นอกจากนี้ จากข้อมูลการใช้บริการแสดงผลข้อมูลการลงทุนใน LTF บนหน้าเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (www.set.or.th/th/ltf) พบว่า ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ลงทุนได้เข้ามาตรวจสอบข้อมูลการถือครองหน่วย LTF มากกว่า 2 หมื่นราย (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2568) ซึ่งแสดงถึงความสนใจในการใช้สิทธิประโยชน์ที่รัฐสนับสนุนภายใต้มาตรการ Thai ESGX
สำหรับการลงทุนใน Thai ESGX โดยวิธีการสับเปลี่ยนจาก LTF ผู้ลงทุนต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ที่ตนเองถืออยู่ทั้งหมด ทุกกองทุนในทุก บลจ. และเป็นตามเงื่อนไขที่ภาครัฐกำหนดด้วย
“ก.ล.ต. เชื่อมั่นว่า Thai ESGX จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทยให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ และมีบทบาทในการผลักดันเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลกองทุน Thai ESGX เงื่อนไขการลงทุน สิทธิประโยชน์ทางภาษี และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน รวมทั้งควรวางแผนการลงทุนระยะยาวให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินในอนาคต โดยสามารถติดตามข่าวสารหรือร่วมกิจกรรม Thai ESGX Event ที่จัดโดย AIMC และบริษัทสมาชิกตลอดช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2568 ได้ทางเว็บไซต์ www.thailandesg.com/thaiesgx
หมายเหตุ :
ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดของ Thai ESGX ที่ได้รับอนุมัติจัดตั้งได้ที่
(1) https://market.sec.or.th/public/mrap/mrapdefault.aspx
(2) https://fundcheck.sec.or.th/main
(3) https://www.sec.or.th/SustainableFinance
นอกจากนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของ Thai ESGX ได้ที่ www.sec.or.th หรือ https://www.sec.or.th/TH/Pages/KnowledgeCapitalMarket/Knowledge-CapitalMarket-THAIESGX.aspx
สรุปวงเงินสิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้มาตรการ Thai ESGX ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 วงเงิน ประกอบด้วย
วงเงินที่ 1 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจลงทุนใน Thai ESGX สามารถเริ่มซื้อได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยต้องถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวัน นับแต่วันที่ลงทุน)
สำหรับกรณีการลงทุนด้วยเงินใหม่ ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนและค่าธรรมเนียม ได้จากหนังสือชี้ชวนของ Thai ESGX แต่ละกอง รวมทั้งสามารถศึกษาขั้นตอนการซื้อกองทุน Thai ESGX ได้ที่ บลจ. แต่ละแห่ง
วงเงินที่ 2 สำหรับผู้ที่ถือหน่วยลงทุน LTF ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่แจ้งความประสงค์สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม ทั้งหมดใน LTF ทุกกองทุนในทุก บลจ. (ไม่รวม class หน่วยภาษีอื่นภายใต้กองทุนเดียวกัน เช่น class SSF) มาเป็นหน่วยลงทุนของ Thai ESGX ในช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2568 วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท ตั้งแต่ปีภาษี 2568 – 2572 โดยในปี 2568 วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท และปี 2569 – 2572 ให้ได้รับลดหย่อนเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีภาษี เช่น ผู้ถือหน่วยลงทุนสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ไป Thai ESGX มูลค่า 380,000 บาท สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ ดังนี้ ปี 2568 จำนวน 300,000 บาท และปี 2569 – 2572 ปีละ 20,000 บาท
สำหรับกรณีนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษาเงื่อนไขการสับเปลี่ยนจาก LTF และค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยน ได้จาก บลจ. ที่บริหารจัดการ LTF ได้ และสามารถดูข้อมูลการถือครองหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดของตนเองได้ในที่เดียว เพื่อตรวจสอบและพิจารณาตัดสินใจสับเปลี่ยนจาก LTF เป็น Thai ESGX เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทางเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th/ltf