GGC แจ้งไตรมาส 3/68 รายได้รวม 4,660 ล้านบาท

Date:

บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC รายงานผลการดำเนินงาน ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ว่า บริษัทฯ มีรายได้  จากการขายรวม 4,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ขณะที่ Adjusted EBITDA อยู่ที่ 257 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ขณะที่ผลการดำเนินงานกับบริษัทร่วมทุน บริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุน 257 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจาก ธุรกิจเอทานอลที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ จากการดำเนินงานในไตรมาสนี้ 154 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรับรู้ค่าใช้จ่ายรายการพิเศษ จำนวน 231 ล้านบาท โดยเป็นการพิจารณาตามหลักการบัญชีในการปรับลดการบันทึกมูลค่ายุติธรรมของที่ดินที่ถูกนำมาจำนอง ที่ไม่กระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทฯ ส่งผลให้ในไตรมาสดังกล่าวมีการรับรู้ ผลขาดทุนสุทธิรวม 385 ล้านบาท หรือคิดเป็นขาดทุนสุทธิ 0.38 บาทต่อหุ้น

สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 15,214 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ Adjusted EBITDA อยู่ที่ 568 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและการดำเนินงานที่ดีขึ้น  แต่อย่างไรก็ตาม หากพิจารณารวมผลการดำเนินงานจากบริษัทร่วมทุน บริษัทฯ ยังคงรับรู้ผลขาดทุน  จากบริษัทร่วมทุน 593 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจเอทานอลที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบ ที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิรวมทั้งสิ้น 759 ล้านบาท

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมการดำเนินงาน ต้องรับรู้ผลขาดทุนต่อปัจจัยดังกล่าว แต่หากพิจารณาจากสถานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ ยังคงมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 10,192 ล้านบาท  ซึ่งเป็นเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด รวมทั้งสิ้น 1,419 ล้านบาท แสดงถึงสถานะทางการเงินและ  สภาพคล่องที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ  

นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน)  หรือ GGC เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของ GGC มาจาก 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่

1. กลุ่มธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ : ถึงแม้ว่าราคาขายเมทิลเอสเทอร์ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% ตามทิศทางราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลก ซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการคาดการณ์ภาวะอุปทานที่ตึงตัว โดยเฉพาะจากแผนการปรับเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซลในประเทศอินโดนีเซีย เป็น B50 ภายในปี 2569 แต่เนื่องจากภาครัฐยังคงสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซลไว้ที่ B5 มาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ปริมาณการขายปรับตัวลดลง 5% จากปีก่อน (YoY) ที่มีการใช้สัดส่วนการผสมที่ B7  ทำให้ในไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีรายได้จากลุ่มธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ 2,682 ล้านบาท ลดลง 3% (YoY)  และมี Adjusted EBITDA อยู่ที่ 13 ล้านบาท ลดลง 79% (YoY)

2.กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ :  ราคาผลิตภัณฑ์แฟตตี้ฯ ในไตรมาส 3/2568  มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 38% จากราคาน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบ ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากภาวะอุปทาน ที่ตึงตัว ส่งผลให้ภาพรวมค่าผลตอบแทนต่อวัตถุดิบ (P2F) ของตลาดแฟตตี้แอลกอฮอล์ปรับตัวดีขึ้น 23%(YoY) และทำให้ในไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ รับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ 1,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%(YoY) และรับรู้ Adjusted EBITDA ที่ 244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67 ล้านบาท  

3.ธุรกิจอื่นๆ : ตามแผนกลยุทธ์เพิ่มกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้า      ดำเนินธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและโภชนเภสัช (Food & Nutraceutical) โดยเริ่มจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ที่เป็นส่วนประกอบอาหารและสารสกัดเพื่อสุขภาพ อาทิ กลุ่มสารให้ความหวาน กลุ่มโปรตีนจากพืช (Plant Based Protein) และกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant Extract) โดยในไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ รับรู้รายได้จากธุรกิจดังกล่าว 20 ล้านบาท สะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และความสำเร็จในการขยายฐานธุรกิจสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มตามเป้าหมายที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม GGC ยังคงเชื่อมั่นว่าการดำเนินธุรกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ Transformation for Future Growth ตาม 3 กลยุทธ์หลัก คือ เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน เป็นกลยุทธ์ที่ GGC มาถูกทางแล้ว โดย GGC ดำเนินการปรับเปลี่ยนกลุ่มธุรกิจหลักจากธุรกิจพลังงานชีวภาพ (BioEnergy) สู่ธุรกิจเคมีชีวภาพ (BioChemical) ซึ่งยังมีความต้องการและมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต รวมถึงเร่งแสวงหาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (High Value Products) ที่ให้ผลตอบแทนสูง เพื่อให้บริษัทฯ รักษาขีดความสามารถในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ TO BE A LEADING GREEN CHEMICAL COMPANY BY CREATING SUSTAINABLE VALUE หรือ เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กบน. ตรึงราคา LPG ต่อถึงสิ้นพ.ย. 2568 

กบน. ตรึงราคา LPG ต่อถึงสิ้นพ.ย. 2568 เดินหน้าตามนโยบาย “Quick Big Win” ดูแลค่าครองชีพประชาชน

DEXON ยกระดับการตรวจถังขนาดใหญ่ 

DEXON ยกระดับการตรวจถังขนาดใหญ่ ด้วยเทคโนโลยี Rope Access ที่แม่นยำและปลอดภัย

บ้านปู เน็กซ์ ผนึก พัฒนาโครงการโซลาร์รูฟท็อป

บ้านปู เน็กซ์ ผนึก อมตะ วีเอ็น และโซลาร์บีเค (SolarBK) ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการโซลาร์รูฟท็อป

ฟู้ดเดลิเวอรี่ แห่เข้า คนละครึ่งพลัส 40,722 ร้านค้า

ฟู้ดเดลิเวอรี่ แห่เข้า คนละครึ่งพลัส 40,722 ร้านค้า เตือนร้านค้าขึ้นราคาอ้างบวก VAT ไม่ควรทำไม่ถูกต้อง