บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือ SAM มีมติแต่งตั้ง นางสาวนารถนา รีรัฐปัตย์ เป็น กรรมการผู้จัดการคนใหม่มีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2567 มั่นใจนำประสบการณ์บริหารงานด้านการเงินและบริหารสินทรัพย์
นางสาวนารถนารีรัฐ ปัตย์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท 2 สาขา ได้แก่ สาขาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (การเงิน) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และวิทยาศาสตร์มหาบันฑิต (วทบ.) Biotechnology จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระดับปริญญาตรี 2 สาขา ได้แก่ สาขานิติศาสตร์บันฑิตและวิทยาศาสตร์บันฑิต (วทบ.) Bio-Chemistry จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มีประสบการณ์ทำงานในภาคธุรกิจการเงินและการบริหารสินทรัพย์มาอย่างยาวนาน อาทิ บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (AMC) บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) และ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) โดยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.)
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการทำงานที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) ได้มีประสบการณ์โดยตรงในการดูแลงานหลากหลายด้าน เช่น งานรับผิดชอบเป้าหมายการบริหารสินทรัพย์และ NPLs การกำกับดูแลสายงานบริหารคุณภาพสินเชื่อ สายงานบริหารสินทรัพย์ สายงานพัฒนาผู้ประกอบการและร่วมลงทุน รวมทั้งสายงานงานด้านสารสนเทศและสนับสนุนการบริหาร เป็นต้น
นอกจากนี้ นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ ยังเคยดำรงตำแหน่งอื่นในหน่วยงานภาครัฐอีกหลายแห่ง อาทิ กรรมการบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) กรรมการคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง เครดิตบูโร และกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นางสาวนารถนารี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสกลับเข้ามาทำงานที่ บสส. อีกครั้งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ซึ่งจากประสบการณ์และองค์ความรู้ในการทำงานด้านธุรกิจการเงินและการบริหารสินทรัพย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถผลักดันบริษัท ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของระบบสถาบันการเงินมามากกว่า 20 ปี ให้เติบโตก้าวหน้าอย่างเข้มแข็งต่อไป
นอกจากนี้ ยังพร้อมเร่งผลักดันภารกิจที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของคนไทย ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติและนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ผ่าน “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เพื่อทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนของคนไทยปรับตัวลดลงให้ได้โดยเร็วและมากที่สุด โดยยังมีเป้าหมายระยะยาวในการทำให้บริัท เป็นหนึ่งในองค์กรที่สำคัญในการเป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนของภาครัฐ นำไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว สอดรับกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันได้