หนี้สินครัวเรือนไทย ล่าสุด 16.4 ล้านล้านบาท

Date:

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานภาวะเศรษฐกิจสังคมไทยไตรมาส 1 ปี 2567 ในส่วนของ หนี้สินครัวเรือน ณ ไตรมาสสี่ ปี 2566 ขยายตัวชะลอลง ขณะที่คุณภาพสินเชื่อด้อยลงในทุกประเภท โดยมีประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญ คือ การติดตามแนวโน้มหนี้เสียของสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะสินเชื่อวงเงินน้อยกว่า 3 ล้านบาท และการประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้เรื้อรังเข้าร่วมมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สิน

ไตรมาสสี่ ปี 2566 หนี้สินครัวเรือนมีมูลค่า 16.4 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.0% ชะลอลงจาก 3.4% ของไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ 91.3% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยหนี้ครัวเรือนขยายตัวชะลอลงเกือบทุกประเภทสินเชื่อ ยกเว้นสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่สินเชื่อยานยนต์หดตัว ด้านความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนด้อยลงทุกประเภท โดยหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์ มีมูลค่า 1.58 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.88 ต่อสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจาก 2.79% ในไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ มีประเด็นที่ควรให้ความสำคัญ ได้แก่

1) แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของหนี้เสียในสินเชื่อที่อยู่อาศัยวงเงินน้อยกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นหนี้ของครัวเรือนรายได้ระดับปานกลางหรือล่าง โดยอาจต้องเฝ้าระวังและเร่งปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้กลุ่มนี้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสีย

2) การเร่งรัดสถาบันการเงินประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มลูกหนี้เรื้อรังเข้าร่วมมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ซึ่งเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 โดยอาจต้องเร่งสื่อสาร พร้อมมีแนวทางการปิดจบหนี้ที่เหมาะสมกับลูกหนี้รายกรณี เพื่อให้การดำเนินมาตรการประสบความสำเร็จ และเกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วน

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

PEA แจงไม่ได้งดขายไฟฟ้าให้กัมพูชา

PEA แจงไม่ได้งดจำหน่ายไฟฟ้าให้กับราชอาณาจักรกัมพูชาทั้ง 8 จุด พบกัมพูชาไม่ใช้ไฟจากไทยเอง

นายกฯ ไม่ตอบคืบหน้าโผครม.

นายกฯ ไม่ตอบคืบหน้าโผครม. ระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว

เวียตเจ็ท ซื้อเครื่องบิน ล็อตใหญ่ 100 ลำ

เวียตเจ็ทเดินหน้าขยายธุรกิจระดับโลก เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบิน-เครื่องยนต์ล็อตใหญ่ 100 ลำจากแอร์บัสและโรลส์-รอยซ์

ดร. เหวียน ถิ เฟือง เถา ร่วมผลักดัน AI เพื่อสังคม

มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวเวียดนาม ดร. เหวียน ถิ เฟือง เถา ร่วมผลักดัน AI เพื่อสังคมบนเวที UNESCO  ย้ำ AI สร้างโอกาส-ลดความเหลื่อมล้ำ