ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรีอ กรุงศรี ประเมินว่า แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิถุนายนชะลอลงจากเดือนก่อน แต่คาดกนง.คงดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิถุนายนยู่ที่ 0.62% YoY ชะลอลงจาก 1.54% ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากการลดลงของอัตราการเปลี่ยนแปลงค่ากระแสไฟฟ้าหลังสิ้นสุดผลกระทบของฐานต่ำในเดือนก่อนหน้า และราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสดเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลงจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกหลังผ่านพ้นช่วงอากาศร้อนจัด ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักราคาหมวดอาหารสดและพลังงาน) อยู่ที่ 0.36% ชะลอลงจาก 0.39% ในเดือนพฤษภาคม สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 0% และ 0.41% ตามลำดับ
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิถุนายนปรับลงมาอยู่ต่ำกว่ากรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของทางการอีกครั้ง หลังจากเพิ่งกลับเข้าสู่กรอบเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือนเมื่อเดือนพฤษภาคม สำหรับในช่วงที่เหลือของปี วิจัยกรุงศรีคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังมีแนวโน้มทยอยปรับเพิ่มขึ้นและอาจกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 1-3% ได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยเฉลี่ยทั้งปีคาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.7% โดยมีปัจจัยหนุนจาก (i) ปริมาณผลผลิตและราคาสินค้าภาคการเกษตรปรับเข้าสู่ระดับปกติมากขึ้นหลังสภาพอากาศร้อนจัดสิ้นสุดลง (ii) มาตรการบรรเทาค่าครองชีพจากการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าของครัวเรือน (iii) ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า และอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลงสะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอกจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังมีความไม่แน่นอน อาจทำให้ราคาน้ำมันและค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าปรับเพิ่มขึ้น
สำหรับมุมมองด้านดอกเบี้ยนโยบาย ล่าสุดผู้ว่าการ ธปท.ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าแต่กำลังกลับเข้าสู่ระดับศักยภาพ อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ประเมินไว้ (Outlook dependent) นอกจากนี้ ยังได้แสดงความกังวลถึงภาคการผลิตที่มีปัญหาเชิงโครงสร้าง และการแข่งขันจากต่างประเทศที่รุนแรงขึ้น รวมทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง จากมุมมองดังกล่าวประกอบกับเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มขยับขึ้นสู่งสนับสนุนให้วิจัยกรุงศรียังคงคาดการณ์ว่ากนง.จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ตลอดในช่วงที่เหลือของปีนี้
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 17.5 ล้านคน ทั้งปีวิจัยกรุงศรียังคงคาดการณ์ไว้ที่จำนวน 35.6 ล้านคน กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬารายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนมิถุนายนรวมทั้งสิ้น 2.74 ล้านคน ขยายตัว 22.3% YoY เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมที่ 2.63 ล้านคน ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปี มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยรวมทั้งสิ้น 17.5 ล้านคน ขยายตัว 35.5% โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 3.44 ล้านคน มาเลเซีย 2.44 ล้านคน อินเดีย 1.04 ล้านคน เกาหลีใต้ 0.93 ล้านคน และรัสเซีย 0.92 ล้านคน
ภาคท่องเที่ยวยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้วคิดเป็น 88.5% ช่วงเดียวกันในปี 2562 (ก่อนเกิดการระบาดโควิด) แม้นำโดยนักท่องเที่ยวจากจีนมีจำนวนมากเป็นอันดับแรก แต่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยคิดเป็น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2562 ขณะที่นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย มีการฟื้นตัวกว่า 103%-126% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2562 ด้านรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 825,541 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 91% ของช่วงเดียวกันปี 2562 ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นจากปี 2566 ซึ่งมีรายได้จากการท่องเที่ยวราว 63% ของช่วงก่อนเกิดระบาด สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี คาดว่าปัจจัยบวกจากมาตรการขยายวีซ่าฟรีให้แก่ 93 ประเทศ และเพิ่มเวลาพำนักในไทยจาก 30 วัน เป็น 60 วัน รวมถึงมีการเพิ่มเส้นทางการบินและความถี่ของเที่ยวบินมากขึ้นจากประเทศที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ อินเดีย วิจัยกรุงศรีจึงยังคงคาดการณ์ทั้งปีจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 35.6 ล้านคน นอกจากนี้ ล่าสุดรัฐบาลมีนโยบายยกเลิกร้านค้าปลอดอากรขาเข้า (Duty Free) ตามท่าอากาศยานที่ขายสินค้าปลอดภาษีให้แก่ผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ ทั้งนี้ มีเป้าหมายว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีการเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยและบริโภคสินค้าในประเทศกระจายกว้างขวางมากขึ้น