ซีไอเอ็มบี คาด กนง. ยังไม่ลดดอกเบี้ยตามเฟดที่ลดแรง 0.50% 

Date:

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ระดับ 5.00% และฉายภาพทิศทางดอกเบี้ยปลายปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 4.50% และปลายปีหน้าที่ระดับ 3.50% ซึ่งต่ำกว่าการให้มุมมองในรอบการประชุมในเดือนมิถุนายนที่มองอัตราดอกเบี้ยปีนี้ที่ 5.25% และปลายปีหน้าที่ 4.25% 

ทั้งนี้ เฟดยังให้มุมมองการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐไว้ที่ 2.0% ใกล้เคียงกับรอบก่อนที่ 2.1% ขณะที่อัตราว่างงานน่าจะอยู่ที่ระดับ 4.4% สูงกว่าที่มองรอบก่อนที่ 4.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อ หรือ PCE น่าจะอยู่ที่ระดับ 2.3% ต่ำลงกว่าที่เคยประมาณการณ์ไว้รอบก่อนที่ 2.6%

นายอมรเทพ กล่าวว่า การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยแรงในรอบแรกที่ระดับ 0.50% แทนที่จะเป็นระดับปกติที่ 0.25% เนื่องจากสองปัจจัย คือ 

1 เพื่อช่วยให้ตลาดคลายความกังวลว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยแรงในครั้งถัดไปหรือไม่ ซึ่งการปรับลดแรงในรอบแรกก็อาจไม่จำเป็นต้องปรับลดแรงเช่นนี้ในรอบการประชุมเดือนพฤศจิกายน 

2 ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนว่า เฟดพร้อมดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย 

สำหรับในช่วงต่อไป ดร.อมรเทพ มองว่าเฟดน่าปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกสองครั้งๆละ 0.25% แต่อาจปรับลดมากกว่านี้หากตัวเลขอัตราว่างงานสูงขึ้นหรืออัตราเงินเฟ้อลดลงเร็วกว่าคาด ซึ่งเชื่อว่าตลาดรับรู้ข่าวนี้มากแล้วและไม่น่ากังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้ปรับตัวย่อลงมารับข่าวนี้แล้ว และไม่น่าลดลงได้มากไปอีกจนทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว

ส่วนทิศทางดอกเบี้ยของไทย นั้น เชื่อว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนตุลาคม โดยไทยยังไม่น่าลดอัตราดอกเบี้ยในทันที รอปัจจัยชี้นำในเดือนพฤศจิกายน 3 ด้าน ได้แก่

1 เพื่อรอทิศทางการฟื้นของเศรษฐกิจไทย หรือ GDP Q3 ซึ่งน่าจะลอกว่าที่แบงก์ชาติคาดจากปัญหาน้ำท่วมกระทบกำลังซื้อของครัวเรือนและภาคเกษตร 

2 เพื่อติดตามผลการลดดอกเบี้ยของสหรัฐตลาดที่จะลดดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป และตลาดไม่น่าแตกตื่น 

3 สาม เพื่อรอดูผลการเลือกตั้งปธน สหรัฐ ซึ่งหากกรณีผู้นำใหม่ที่มีนโยบายกีดกันทางการค้าได้ชัยชนะก็อาจมีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ รวมทั้งต้องดูด้วยว่าพรรคผู้นำจะได้เสียงข้างมากในสภาสูงและสภาล่างด้วยหรือไม่ ซึ่งจะทำให้การดำเนินนโยบายราบรื่นขึ้น หรือจะเกิดความเสี่ยงด้าน government shutdown อย่างไรก็ดี 

“ผมเชื่อว่า กนง. น่าลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมหลังมีความชัดเจนในตลาดเงินตลาดทุนและมาตรการแจกเงินน่ามีความชัดเจนว่าไม่น่าทำให้เงินเฟ้อ ซึ่งกนง น่าลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือที่ระดับ 2.25%” ดร.อมรเทพ กล่าว

อย่างไรก็ดี นายอมรเทพ กล่าวว่า แบงก์ชาติอาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากสองส่วน หนึ่งคือกังวลอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูง ทั้งจากมาตรการแจกเงินเฟสสองและการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หรือหากคลังปรับลด FIDF ก่อนซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ลดลงตามโดยไม่ต้องลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งหาก กนง. ไม่ลดดอกเบี้ยในเดือนตุลาคม ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า คลังจะลด FIDF 0.23% ซึ่งน่าช่วยให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินปรับลดลงได้โดยไม่กระทบเสถียรภาพตลาดเงินตลาดทุน หรือคลังอาจเลือกจัดเก็บ FIDF มาตั้งกองทุนใหม่เพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากหนี้สูง โดยไม่ได้ทำให้ดอกเบี้ยลดลงแต่ดูแลผู้มีปัญหาเฉพาะจุด ซึ่งทั้งสองส่วนน่าพอช่วยให้เศรษฐกิจไทยลดความเสี่ยงการชะลอตัวได้

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

“ธนารักษ์” เปิดตัวโครงการ Clean Energy

“ธนารักษ์” เปิดตัวโครงการ Clean Energy ต้นแบบการใช้พลังงานสะอาดในที่ราชพัสดุ  พร้อมลงนาม MOU กับกองทัพเรือจัดทำโครงการนำร่อง

บสย. ได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ ESG DNA

บสย. ได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ โครงการ ESG DNA จากตลาดหลักทรัพย์ฯ

เร่งเบิกใช้งบกระตุ้น 1.57 แสนล้านบาท

เร่งเบิกใช้งบกระตุ้น 1.57 แสนล้านบาท พบใช้ไม่ทัน 2.6 หมื่นล้านบาท ให้สำนักงบโยกไปไว้งบเบิกฉุกเฉิน

SME D Bank เติมพลังเอสเอ็มอีไทยในงาน ‘SME D Market’

SME D Bank เติมพลังเอสเอ็มอีไทยในงาน ‘SME D Market’ ประจำเดือน ส.ค.68  ช่วยผู้ประกอบการ สร้างรายได้ ขยายตลาด ปลุกกำลังซื้อ กระตุ้นเศรษฐกิจไทย