คนจน คนรวย รับภาระภาษี VAT เท่าไร

Date:

ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) โพสต์เฟสบุ๊ก “Somchai Jitsuchon” ระบุ

คนจน คนรวย รับภาระภาษี VAT เท่าไร

หนึ่งในข้อถกเถียงว่าเราควรเก็บภาษี VAT เพิ่มขึ้นหรือไม่ คือเกรงว่าจะเป็นภาระต่อคนจนมากกว่าคนรวย เพื่อตอบคำถามนี้มีงานวิจัยออกมาเป็นระยะจากหลายค่ายที่วัดอัตราภาษี VAT ที่แท้จริง ซึ่งหมายถึงภาษีที่จ่ายจริง (หลังหักกรณีที่ไม่ต้องจ่ายภาษี) หารด้วยเงินในมือของคน โดยมักจะวัดอัตราภาษีนี้เรียงลำดับจากคนที่จนสุดไปถึงคนรวยสุด ซึ่งมักแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม (decile 1 to decile 10 หรือ d1 ถึง d10)

สองรูปข้างล่างคือผลวิจัยล่าสุดที่ทำโดยธนาคารโลกและ TDRI 

รูปแรกตัวหารคือรายจ่ายรวม เหตุที่ไม่หารด้วยรายได้เพราะ (ก) ฐานภาษีคือการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค อัตราภาษีจึงควรคำนวณจากฐานภาษี (ข) ข้อมูลที่ใช้คำนวณเรื่องนี้คือการสำรวจสถานะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนโดยสำนักงานสถิติ ซึ่งมีลักษณะเป็นการสำรวจภาคตัดขวาง (cross-sectional survey) ที่ข้อมูลรายได้อาจไม่บ่งชี้เศรษฐานะแท้จริงในระยะยาวกว่าหนึ่งปีที่สำรวจ เพราะบางคนอาจมีรายได้เพิ่มหรือลดชั่วคราว ในขณะที่การใช้จ่ายจะเสถียรกว่า เพราะคนส่วนใหญ่จะใช้จ่ายบนการคาดการณ์รายได้ระยะยาวกว่าหนึ่งปี จึงแม่นยำกว่าในการแสดงเศรษฐานะ 

รูปสองเป็นการหารด้วยรายได้ เพื่อมาเทียบผลกับรูปแรก 

(ตัวหารมีการปรับด้วยข้อมูลเงินโอนที่ครัวเรือนได้จากภาครัฐและการเสียภาษีให้รัฐ ซึ่งวิธีคำนวณสองตัวนี้ต่างกันระหว่าง WB และ TDRI)

สมมติฐานที่สำคัญต่อผลการศึกษาแบบนี้คือการกำหนดว่าการซื้อจากที่ใดไม่เสียภาษี VAT (นอกเหนือจากว่าสินค้าใดเสีย สินค้าใดไม่เสีย ซึ่งทุกการศึกษาใช้เหมือนกันตามที่กำหนดในกฎหมาย) เช่นกรณีธนาคารโลก สมมติว่าการซื้อจากร้านโชวห่วยเสียภาษี VAT ส่วนของ TDRI 2 ให้ถือว่าไม่เสีย VAT เป็นต้น (ส่วน TDRI 1 ใช้สมมติฐานเดียวกับ WB) มีรายละเอียดมากกว่านี้แต่ขอละไว้ไม่กล่าวถึงในที่นี้

ผลจากรูปแรก คือภาษี VAT เป็นภาษีที่ ‘ก้าวหน้า’ ในทุกกรณี คือคนยิ่งมีเศรษฐานะดียิ่งเสียในอัตราสูง แสดงว่าไม่ต้องกังวลว่าภาษีนี้คนจนรับภาระมากกว่า เหตุคือทั้งตัวสินค้าและแหล่งซื้อ คนจนจะได้รับ ‘ยกเว้น’ ภาษีในสัดส่วนสูงกว่าคนรวย

ส่วนรูปสองที่ใช้รายได้เป็นตัวหาร ภาษี VAT ก็ยังมีลักษณะก้าวหน้าหากใช้สมมติฐานแหล่งซื้อแบบ TDRI 2 แต่จะเริ่มเป็นแบบถดถอยในอีกสองกรณี ซึ่งรวมกรณีที่ไม่พิจารณาแหล่งซื้อเลย ดูเพียงประเภทสินค้าเท่านั้น ซึ่งเป็นวิธีที่งานวิจัยก่อนหน้าเกือบทั้งหมดทำไว้ และเป็นที่มาของ ‘ภาพจำ’ ว่าภาษี VAT นั้นถดถอย

ในความเป็นจริงไม่มีงานวิจัยไหนแม่น 100% สมมติฐานที่ใช้ก็ไม่เป็นจริงทัั้งหมด เช่นสินค้าที่ซื้อจากโชวห่วยที่ TDRI1 กำหนดว่าไม่เสีย VAT นั้น ถ้าเป็นสินค้าที่กฏหมายกำหนดให้เสีย VAT ก็อาจมีภาษีปนมาในขั้นตอนผลิตและจำหน่ายก่อนหน้ามาถึงร้านโชวห่วยเป็นต้น แต่ข้อมูลละเอียดระดับนั้นไม่มี จึงไม่สามารถตั้งสมมติฐานที่สมจริงกว่านี้ได้ 

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่ายังสามารถสรุปได้ว่าความเชื่อว่าภาษี VAT ถดถอยนั้นต้องได้รับการทบทวนครับ

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ ยิ้มรับสื่อ ก่อนออกจากศาล

นายกฯ ยิ้มรับคำถามสื่อกำลังใจดี ก่อนออกจากศาล

ฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. นั่งประธานสมาคมแบงก์รัฐ

สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์ เลือก ฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ

SCB CIO ชี้ พอร์ตหลักเน้นหุ้นสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน 

SCB CIO ชี้ พอร์ตหลักเน้นหุ้นสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน ส่วนพอร์ตเสริมแนะหุ้นเกาหลีใต้และธีม AI

มาใหม่ ! โปร สินเชื่อสวัสดิการฯ สำหรับวัยเกษียณจากออมสิน

สินเชื่อสวัสดิการฯ โปรดีจากออมสิน วงเงินกู้สูงสุด 100% ของวงเงินบำเหน็จตกทอด สมัครวันนี้ – 30 ก.ย. 68