
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้พบกับ นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อหารือความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานในการแก้ปัญหามิจฉาชีพใช้บัญชีม้านิติบุคคลไปหลอกลวงประชาชน และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งครอบคลุม 4 ประเด็นสำคัญ คือ
1) การเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับสมาคมธนาคารไทย โดยเฉพาะข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) ที่ส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจสอบนิติบุคคลที่มีผู้ก่อการหรือกรรมการอยู่ในบัญชีรายชื่อ HR–03 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีการกระทำผิดกฎหมายหลอกลวงประชาชน โดยเมื่อกรมฯ ตรวจสอบพบและส่งกลับไปให้ศูนย์ AOC แล้ว เมื่อธนาคารทราบจากการเชื่อมโยงข้อมูลจะได้ไปดำเนินการต่อ เพื่อระงับการกระทำที่ผิดกฎหมายดังกล่าว
2) กรมฯ อยู่ระหว่างพัฒนา “ระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล” หรือ Intelligence Business Analytic System (IBAS) เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ ติดตามพฤติกรรมของนิติบุคคลว่ามีแนวโน้มจะกระทำความผิดหรือไม่ โดยเน้นนิติบุคคลที่เข้าข่ายนอมินี ซึ่งสมาคมธนาคารไทยสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบนี้ให้มีประสิทธิภาพต่อไป
3) กรมฯ มีการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการออนไลน์มาขึ้นทะเบียนกับกรมฯ เพื่อขอใช้ตราสัญลักษณ์ DBD Registered ในการดำเนินธุรกิจ โดยเครื่องหมายนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้ว่า ผู้ประกอบการออนไลน์เหล่านี้มีตัวตน สามารถติดตามตรวจสอบได้ เนื่องจากผู้ประกอบการที่จะได้ตราเครื่องหมายนี้ต้องเป็นนิติบุคคล หรือ บุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนพาณิชย์ ซึ่งสมาคมธนาคารไทยประสงค์จะเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการออนไลน์ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ DBD Registered กับกรมฯ เพื่อเกิดความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมและร่วมกันแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงออนไลน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น
4) การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสร้างความเข้าใจ และเสริมความรู้กับธนาคารเรื่องการนำทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ (IP Finance) เนื่องจากนับตั้งแต่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 มีการรับให้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหลักประกันเป็นสัดส่วนเพียง 0.07% จากมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 19.33 ล้านล้านบาท ที่สถาบันการเงินรับเป็นหลักประกัน ทั้งนี้ ประเภททรัพย์ที่สถาบันการเงินรับเป็นหลักประกันส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปสิทธิเรียกร้อง เช่นบัญชีเงินฝาก สัญญาซื้อขาย และอยู่ในรูปสังหาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ เป็นต้น โดยกรมฯ เตรียมเชิญผู้เชี่ยวชาญจากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกมาให้ความรู้แก่สถาบันการเงินที่สนใจ เพื่อสร้างความมั่นใจในการรับทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ รวมถึงเฟ้นหา SME ที่มีศักยภาพทางด้านทรัพย์สินทางปัญญามาเพื่อให้สถาบันการเงินพิจารณาเรื่องการรับเป็นหลักประกัน ซึ่งหากความร่วมมือนี้เกิดผลเป็นรูปธรรมจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้เป็นหลักประกันในการขอเงินทุนจากสถาบันการเงินมากขึ้น
อธิบดีอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ยังได้แจ้งให้สมาคมธนาคารไทยทราบว่า ปัจจุบัน กรมฯ มีการทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานพันธมิตร เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ปปง. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อมุ่งแก้ปัญหาและปราบปรามมิจฉาชีพบัญชีม้านิติบุคคลหลอกลวงประชาชน ซึ่งสมาคมธนาคารไทยก็พร้อมจะทำงานร่วมกับกรมฯ และหน่วยงานพันธมิตร เพื่อจับมือกันแก้ปัญหาภัยจากมิจฉาชีพดังกล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนผู้ที่ต้องการร้องเรียนเรื่องนอมินีนิติบุคคล สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th หัวข้อ “รับเรื่องร้องเรียนปัญหานอมินี’ (ล่างสุดของหน้าเว็บไซต์) และกรอกรายละเอียดตามแบบฟอร์มที่กำหนด เพื่อกรมฯ จะได้ดำเนินการติดตามตรวจสอบต่อไป หรือ หากสงสัยว่าที่อยู่ของตนถูกมิจฉาชีพนำไปจดจัดตั้งเป็นนิติบุคคลโดยไม่ได้ยินยอมหรือไม่ สามารถตรวจสอบด้วยตนเองผ่าน ‘ระบบตรวจสอบที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของนิติบุคคล’ บนเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และแจ้งเบาะแสกรณีถูกนำที่อยู่ไปใช้ จดทะเบียนเป็นที่ตั้งสำนักงานนิติบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมทางอีเมล์ checkaddr@dbd.go.th หรือสายด่วน 1570