อดีต รมว.คลัง เสนอวิธีซื้อหนี้ประชาชน ช่วยลูกหนี้รายเล็กจริงๆ

Date:

นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง โพสต์เฟสบุ๊ก กรณ์ จาติกวณิช – Korn Chatikavanij” ระบุว่า 

ซื้อหนี้?

พูดเรื่องช่วยคนติดหนี้ทีไร มักจะมีดราม่าทุกครั้ง การแสดงความเห็นหลากหลายเกิดขึ้นทันที บางครั้งก็เพราะเข้าใจผิดจากการสื่อสารที่ไม่เคลียร์ ผมเองเคยมีปัญหานี้กับเรื่องแบล็กลิสต์เครดิตบูโรมาก่อน ข้อเสนอการซื้อหนี้ครั้งนี้ก็ไม่ต่าง

การช่วยคนที่เป็นหนี้ให้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นเรื่องที่ผมเห็นดีด้วยอย่างมาก ผมจึงอยากชวนทุกคนให้ช่วยกันคิดและทำความเข้าใจกับสิ่งที่อดีตนายกฯ กำลังเสนอ และหาทางออกที่มีหลักอธิบายได้ ไม่เป็นประชานิยม (เกินไป) และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนให้กับกล่มทุนกลุ่มใด

โดยสรุป ผมว่าเรื่องการโยกหนี้จากบัญชีธนาคารไปอยู่ในบัญชีรัฐทำได้ครับ และหากทำถูกวิธีก็เป็นเรื่องที่ควรทำด้วย ส่วนอดีตนายกฯ จะทำแบบที่ผมคิดหรือไม่ผมไม่แน่ใจ ผมขอลองเสนอวิธีของผมแล้วกัน (ไม่ได้คิดเองทั้งหมด แต่คุยกับเพื่อนร่วมคิดหลายคน)

อันดับแรก : 2 อย่างที่ ’ไม่ควรทำ‘

1. ไม่ควรซื้อหนี้เสียทั้งหมด – เพราะต้องใช้เงินเยอะไป และ moral hazard มากเกินไป

2. ไม่ควรเอาผู้บริหารหนี้เอกชนมาเกี่ยวข้อง – เพราะจะมีปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนมาเกี่ยวข้องกับการใช้เงินรัฐ

คราวนี้สิ่งที่ควรทำ

1. หนี้เสียในระบบบูโรตอนนี้มี ทั้งหมด 1.22 ล้านล้านบาท เป็นของลูกหนี้ 9.5 ล้านบัญชี รวม 5.4 ล้านคน – อย่างที่บอก เราไม่ควรซื้อหนี้ทั้งหมดนี้

2. รัฐควรขีดเส้นการช่วยเหลือที่ลูกหนี้ที่มีหนี้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ซึ่งจะครอบคลุม 3.5 ล้านคน หรือ 65% ของลูกหนี้เสียทั้งหมด!

3. ตามนี้ วงเงินหนี้เสียรวมที่รัฐจะดูแลจะเหลือเพียงประมาณ 120,000 ล้านบาท หรือ 10% ของหนี้เสียโดยรวม 

4. พูดง่ายๆ คือเราช่วยคนเล็กคนน้อยเท่านั้น ขาใหญ่มีวิธีอื่นที่ช่วยได้ เดี๋ยวค่อยว่ากัน

5. แหล่งที่มาของเงินคือ เราสามารถใช้เงินเหลือจาก FIDF ได้ เพราะรัฐได้มีมาตรการลดภาระการจ่ายเข้ากองทุนโดยธนาคารพานิชย์ไปแล้วครึ่งหนึ่ง เท่ากับปีละ 70,000 ล้าน 

6. รัฐควรใช้ AMC ของรัฐที่มีอยู่แล้วคือ SAM (กำกับดูแลโดยแบงค์ชาติ) ซื้อหนี้ส่วนนี้ออกมาจากธนาคารพานิชย์ ราคาตามราคาตลาดปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5-7% ของวงเงินหนี้

7. ส่วนนี้จะเป็นกำไรของธนาคารพาณิชย์เพราะทุกธนาคารได้สำรองหนี้เสียไว้เต็ม 100% แล้วตามเงื่อนไขแบงก์ชาติ

8. หาก SAM ซื้อหนี้ตามราคานี้ วงเงินที่ต้องใช้จริงคือไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท

9. จากนั้น SAM ควรตั้งเงื่อนไขให้ลูกหนี้ชำระหนี้ในราคาตีซัก 10-15% ของหนี้เดิม แลกกับการเคลียร์ประวัติในเครดิตบูโร – ลูกหนี้จะเหมือนได้เกิดใหม่ทันที กำไร (หากมี) ปันส่วนกลับไปให้ธนาคารพาณิชย์บางส่วนได้

10. ทั้งหมดนี้ต้องมีแบงก์ชาติเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อความเชื่อมั่น และเพราะมีการใช้หน่วยงานในสังกัด

ด้วยวิธีนี้ รัฐไม่ได้ใช้เงินภาษี (จริงๆก็คือใช้เงินของธนาคารพาณิย์ที่จ่ายให้ FIDF นั่นแหละ) และจำนวนลูกหนี้ที่ติดบูโรในกลุ่มที่เปราะบางที่สุดได้ประโยชน์ถึง 3 ล้านกว่าคน

ข้อเสียคืออะไร?

1. ประเด็น moral hazard – การช่วยทุกกรณีมี moral hazard แต่กรณีนี้ผมได้เสนอให้ช่วยลูกหนี้รายเล็กที่สุดเท่านั้น 

2. ความเสี่ยงต่อกองทุนฟื้นฟู – อันนี้ขึ้นอยู่กับราคาที่ซื้อหนี้มาจากธนาคารพาณิย์ แต่หากซื้อที่ไม่เกิน 5-7% ผมว่าความเสี่ยงอยู่ในระดับที่รับได้ 

3. ลูกหนี้อาจจะยังไม่พ้นบ่วงหนี้ เพราะหากเป็นหนี้เสียกับธนาคารพาณิชย์อยู่ ผมมั่นใจว่าคงจะมีหนี้นอกระบบอยู่ด้วยอีกไม่มากก็น้อย

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

SJWD โชว์ฟอร์ม Q2/68 ยกระดับกำไรสุทธิสร้างฐานใหม่

SJWD โชว์ฟอร์ม Q2/68 ยกระดับกำไรสุทธิสร้างฐานใหม่ ทำรายได้โตต่อเนื่องรวม 6,437.8 ล้านบาท เติบโต 10.1%

สกาย กรุ๊ป (SKY) โชว์ผลงาน H1/68 กำไร 405 ล้านบาท

สกาย กรุ๊ป (SKY) โชว์ผลงานโตต่อเนื่อง H1/68 รายได้รวมทะลุ 5,020 ล้านบาท โกยกำไร 405 ล้านบาท พร้อมตุนแบ็กล็อก 23,463 ล้านบาท

“GWS CLOUD” จับมือ “ดีป้า” นำโซลูชันคลาวด์ระดับโลกติดปีก SMEs

บิ๊กเนมไต้หวัน “GWS CLOUD” จับมือ “ดีป้า” นำโซลูชันคลาวด์ระดับโลกติดปีก SMEs ชี้องค์กรไทยทุ่มเงิน 1.8 พันล้านดอลลาร์ ใช้คลาวด์ขับเคลื่อนความสำเร็จ

ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ส่งแคมเปญ “Pretty Ugly Bag”

ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ส่งแคมเปญ “Pretty Ugly Bag” กระเป๋าไม่สวยแต่ช่วยโลกได้อัปไซเคิลป้ายไวนิลเก่าสู่กระเป๋าช้อปปิ้ง