ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้กว่า 47,000 ล้านบาท 

Date:

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ยังคงสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าและประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มมากขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้กับประเทศ โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 หรือ 3 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม – มีนาคม 2568) ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 47,414 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 41,817 บัญชี เพิ่มขึ้น 34.34% และ 51.95% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 24,867 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 37% ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2567 มีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,811,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.63%, มีสินทรัพย์รวม 1,899,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.82%, เงินฝากรวม 1,644,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.85%

ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีจำนวน 104,537.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.82% ของยอดสินเชื่อรวม, การตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวนสูงถึง 153,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.52% หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL ที่ระดับ 146.78% สะท้อนถึงความมั่นคงและพร้อมในการรองรับผลกระทบในอนาคต และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ระดับแข็งแกร่งที่ 15.59% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดที่ 8.50% 

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้ ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เป็นจำนวนมาก เป็นผลมาจากการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและประชาชนทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Social Solution สำหรับผู้มีรายได้น้อย และผลิตภัณฑ์สินเชื่อในกลุ่ม Business Solution สำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป อาทิ สินเชื่อซื้อ – สร้าง อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เพียง 3.00% ต่อปี มียอดนิติกรรมจำนวน 9,384 ล้านบาท, สินเชื่อบ้านสวัสดิการ ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก  2.30% ต่อปี มียอดนิติกรรม 9,419 ล้านบาท, สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดนิติกรรม 7,480 ล้านบาท, สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.20% ต่อปี มียอดนิติกรรม 3,735.34 ล้านบาท, โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 3.50% ต่อปี มียอดนิติกรรม 2,759 ล้านบาท, โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568  อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดนิติกรรม 275 ล้านบาท ขณะที่การช่วยเหลือคนไทยให้รักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ธอส. ได้ดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่านโครงการคุณสู้ เราช่วย โดยมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 21,483 ราย คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 25,558.52 ล้านบาท 

“ด้วยลูกค้ามีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเป็นจำนวนมาก ประกอบกับ ธอส. ได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงทำให้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เพิ่มขึ้นถึง 34.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น จึงมั่นใจว่าการปล่อยสินเชื่อในปี 2568 ของ ธอส. จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีปัจจัยบวกสำคัญมาจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง เหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ซึ่งมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 สนับสนุนการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนในช่วงปีนี้ให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2569 ในทุกระดับราคา จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคงค้างในระบบได้เป็นอย่างดี ทำให้ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบขยายตัวดีขึ้น” นายกมลภพ กล่าว

สำหรับในปี 2568 ธอส. ยังคงเดินหน้าสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง รวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบาง เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผ่านการมีที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม ด้วยการจัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสนับสนุนการให้ประชาชนที่ต้องการที่อยู่อาศัยเข้าถึงสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ธอส. ยังยกระดับการให้บริการด้านดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้บริการด้านดิจิทัลให้กับลูกค้ามากขึ้น ด้วยการพัฒนาโครงการต่าง ๆ อาทิ (1) โครงการยกระดับการเฝ้าระวังและตรวจจับรายการธุรกรรม ต้องสงสัยแบบ Near Real Time เพื่อใช้ในการตรวจสอบความผิดปกติของการเดินบัญชีเงินฝากของลูกค้า ถือเป็นการช่วยป้องกันการเกิดบัญชีม้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะเปิดให้บริการภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568, (2) โครงการบริหารจัดการ NPA เพื่อยกระดับการบริหารจัดการและการขายทรัพย์ NPA และการพัฒนาเว็บไซต์บ้านมือสองของธนาคาร ให้ตอบสนองต่อความต้องการใช้งานของลูกค้ามากขึ้น และ (3) โครงการ Security Choice ยกระดับ Application : GHB ALL GEN โดยเพิ่มฟังก์ชันให้ลูกค้าสามารถเปิด/ปิดบัญชีที่ไม่ต้องการให้มีการโอน/จ่ายเงินออกได้ด้วยตนเอง เพียงยืนยันตัวตนในแอป แต่ยังสามารถรับโอนเงินได้ตามปกติ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในการใช้บริการ Application : GHB ALL GEN ให้กับลูกค้า โดยทั้ง 2 โครงการ จะเปิดให้บริการภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ  www.ghbank.co.th

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

”อิ๊งค์“ บอกประชาชนไม่ต้องห่วงเรื่องแกัปัญหาเศรษฐกิจ

”อิ๊งค์“ บอกประชาชนไม่ต้องห่วงเรื่องแกัปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลรู้ปัญหาหมด พร้อมรับมือทุกด้าน ดันบ่อนกาสิโนช่วยศก.

อิ๊งค์ สวน มูดี้ส์ แค่มุมมองไม่ใช่การให้คะแนน

อิ๊งค์ สวน มูดี้ส์ แค่มุมมองไม่ใช่การให้คะแนน ยันรับรู้สถานการณ์โลกพร้อมรับมือ 

“พิชัย” ยกเครื่อง Thai SELECT โฉมใหม่

“พิชัย” ยกเครื่อง Thai SELECT โฉมใหม่  “ติดดาว” ดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยสู่ระดับโลก

กรมทรัพย์สินทางปัญญา หารือกองปราบฯ จัดการสินค้าผิดกม.

กรมทรัพย์สินทางปัญญา หารือกองปราบฯ จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ ปราบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา งัดกฎหมายที่เกี่ยวข้องปราบผู้กระทำผิด