
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย โพสต์เฟสบุ๊ก “อมรเทพ จาวะลา” ระบุว่า
เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2: ตัวเลขดูดี แต่ความเสี่ยงเริ่มชัดเจน
แม้ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 จะออกมาดีกว่าคาด แต่เมื่อมองลึกลงไปในรายละเอียด จะพบว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับแรงกดดันหลายด้านที่อาจส่งผลต่อครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในไตรมาส 3 ที่มีความเสี่ยงจะหดตัวแบบไตรมาสต่อไตรมาส
1. ภาคบริการเริ่มอ่อนแรง
กลุ่มร้านอาหารและโรงแรม ซึ่งเคยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการบริโภคภาคเอกชน หดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง สะท้อนผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง
หากไม่มีแรงส่งจากนักท่องเที่ยวยุโรปในไตรมาส 4 ภาคบริการอาจยังไม่ฟื้นตัว
2. การลงทุนภาคเอกชนชะลอ
แม้ดูเหมือนขยายตัวจากปีก่อน แต่เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส การลงทุนภาคเอกชนกลับหดตัว ทั้งในด้านการก่อสร้างและเครื่องจักร
สะท้อนความไม่มั่นใจของนักลงทุนจากปัจจัยภายในและภายนอก เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการรอความชัดเจนนโยบายเศรษฐกิจโลก
3. กำลังซื้อเริ่มแผ่ว
หลายหมวดสินค้า เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ รองเท้า และบริการด้านสันทนาการ ต่างหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
สะท้อนว่าผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
4. ภาคการก่อสร้างเอกชนหดตัวต่อเนื่อง
การก่อสร้างภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่องหลายไตรมาสติดกัน ซึ่งน่ากังวล เพราะเป็นภาคที่ใช้แรงงานจำนวนมากและมีผลกระทบเป็นวงกว้าง
ปัจจัยกดดัน ได้แก่ อุปทานล้นตลาด ความเข้มงวดด้านสินเชื่อ และความเชื่อมั่นที่ลดลง
แนวทางรับมือที่ควรเร่งดำเนินการ
– เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ เพื่อชดเชยการลงทุนเอกชนที่ชะลอ
– กระตุ้นกำลังซื้อ โดยเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคกล้าใช้จ่าย
– ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ให้ใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก เพื่อพยุงภาคบริการ
– เร่งอนุมัติโครงการลงทุนของ BOI ไม่ให้เอกชนต้องรอนาน
– เจรจา FTA เปิดตลาดใหม่ ทดแทนการพึ่งพาสหรัฐฯ
= ผ่อนคลายมาตรการการเงินเพิ่มเติม เพื่อรองรับกำลังซื้อที่อ่อนแอ
สรุป
เศรษฐกิจไทยอาจเริ่มฟื้นตัวในต้นปีหน้า แต่ต้องผ่านความท้าทายของไตรมาส 3 และ 4 ให้ได้ โดยเฉพาะการดูแล SME ให้มีสภาพคล่องเพียงพอในการรักษาการจ้างงานและปรับตัวผ่านยอดขายที่ชะลอลง