เปิดฉาก “สัปดาห์เสน่ห์เซี่ยงไฮ้” ในเทศกาลโคมไฟอวี้หยวนประเทศไทย

Date:

งาน “สัปดาห์เสน่ห์เซี่ยงไฮ้” ภายใต้เทศกาลโคมไฟอวี้หยวนประเทศไทย พร้อมด้วยกิจกรรมเปิดตัว “Summer of Shanghai (Bangkok)” ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ แสงสีสุดตระการตาของโคมไฟอวี้หยวน ได้กลายเป็นสักขีพยานแห่งการบรรจบที่งดงามระหว่างแม่น้ำหวงผู่และแม่น้ำเจ้าพระยา โดยในปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย อีกทั้งเซี่ยงไฮ้และกรุงเทพฯ ยังได้เป็นเมืองพี่เมืองพี่น้อง และเทศกาลโคมไฟอวี้หยวนซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ได้เดินทางสู่ต่างแดนอีกครั้ง โดยเริ่มเปิดฉากอย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน ถ่ายทอดวัฒนธรรมและจิตวิญญาณแห่งเซี่ยงไฮ้ผ่านศิลปะโคมไฟและแสงสีดิจิทัลสู่สายตาผู้ชมชาวต่างประเทศ

“สัปดาห์เสน่ห์เซี่ยงไฮ้” จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 สิงหาคม เป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญภายใต้เทศกาลโคมไฟอวี้หยวนประเทศไทย โดยนำเสนอภาพลักษณ์ของเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างรอบด้าน ผ่านสื่อหลากรูปแบบ อาทิ วิดีโอสั้น ภาพสวยงาม จุดเช็คอินอินเทอร์แอคทีฟ การออกแบบทางวัฒนธรรมและสร้างสรรค์ ฯลฯ สะท้อนเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมถ่ายทอดมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างสองมหานครอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้ระดับโลก “Summer of Shanghai (Bangkok)” อย่างเป็นทางการอีกด้วย โดยเปิดตัวไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างอบอุ่น พร้อมเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้เพื่อสัมผัสประสบการณ์อันแสนประทับใจไม่รู้ลืม

“เสน่ห์แห่งเซี่ยงไฮ้ เปล่งประกายที่กรุงเทพฯ – นิทรรศการภาพถ่ายนครเซี่ยงไฮ้” ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของกิจกรรมภายใต้เทศกาลโคมไฟอวี้หยวนประเทศไทย นิทรรศการครั้งนี้ได้รับการวางแผนและคัดสรรอย่างพิถีพิถัน โดยหยิบยกภาพถ่ายและภาพวาดยอดนิยมจากแคตตาล็อกภาพเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างเป็นทางการ และจากแพลตฟอร์ม “IP SHANGHAI” รวมกว่า 80 ผลงานคุณภาพของช่างภาพและนักวาดภาพทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ โดยผลงานเหล่านี้เสมือนบทกวีภาพเคลื่อนไหวของเมืองที่ถ่ายทอดจังหวะของเซี่ยงไฮ้ที่ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง ผ่านเลนส์ที่บันทึกไว้ในห้วงขณะ แสดงให้เห็นว่าเซี่ยงไฮ้ในวันนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาส เชื่อมโยงความฝันและอนาคตของผู้คนด้วยท่าทีที่เปิดกว้างและโอบรับความหลากหลาย โดยภาพถ่ายที่จัดแสดงในนิทรรศการเน้นไปที่สามธีมหลัก ได้แก่ “ความเปิดกว้าง” “นวัตกรรม” และ “การผสมผสาน” ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้อย่างครบมิติ ตั้งแต่ชีวิตประจำวันอันคึกคัก ไปจนถึงแฟชั่นสุดทันสมัย และมนต์เสน่ห์ของการผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก ในส่วนของภาพวาด แบ่งออกเป็นสองหัวข้อย่อย ได้แก่ “แลนด์มาร์กคลาสสิก” และ “โครงการฟื้นฟูเมือง”:

• แลนด์มาร์กคลาสสิก เปรียบดั่งกระดูกสันหลังของเมือง เป็นผู้เก็บรักษาประวัติศาสตร์และการสืบทอดวัฒนธรรม เช่น พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ที่มีประวัติยาวนานนับร้อยปี เทศกาลโคมไฟอวี้หยวนที่เปล่งแสงวิจิตร อาคารอู่คังอันสง่างาม สนามบินผู่ตงที่เชื่อมต่อทั่วโลก ถนนหนานจิงสุดพลุกพล่าน โรงภาพยนตร์คาเธ่ย์อันคลาสสิก และกลุ่มอาคาร “สามตึก” ริมหาด The Bund ที่เป็นสัญลักษณ์ของเส้นขอบฟ้าเมืองเซี่ยงไฮ้ เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงลักษณะและสไตล์ของเมืองได้อย่างชัดเจน

• โครงการฟื้นฟูเมือง ถ่ายทอดเรื่องราวของการออกแบบพื้นที่เมืองและวิถีชีวิต เช่น ศูนย์สร้างสรรค์ชุมชนซินหัว พื้นที่ใต้สะพานแม่น้ำซูโจวที่ได้รับการฟื้นฟู ริมฝั่งแม่น้ำหยางผู่ที่รีโนเวตจากซากอุตสาหกรรม สวนจางหยวนที่ผสานอดีตกับความทันสมัย ท้องฟ้าจำลองเซี่ยงไฮ้ที่สำรวจจักรวาล North Bund ที่กำลังมาแรง แลนด์มาร์กใหม่สำหรับสายอาร์ต “Columbia Circle” และตลาดอูจงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

โดยภาพทั้งหมดนี้สื่อให้เห็นว่า เซี่ยงไฮ้สามารถรักษารากเหง้าทางประวัติศาสตร์ไว้ได้ พร้อมๆ กับเปล่งประกายชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและศักยภาพของการพัฒนาในอนาคต

และนอกจากนิทรรศการภาพถ่ายแล้ว ในงาน “สัปดาห์เสน่ห์เซี่ยงไฮ้” ยังมีการฉายวิดีโอสั้นเกี่ยวกับเมืองเซี่ยงไฮ้จำนวน 15 วิดีโอ ภายในพื้นที่จัดงานเทศกาลโคมไฟอวี้หยวนประเทศไทย สอดประสานกับแสงไฟโคมสุดตระการตา เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้สัมผัสพลังและเสน่ห์ของเซี่ยงไฮ้ในแบบอินเทอร์แอกทีฟ ราวกับได้เดินทางไปเยือนด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษในงาน “สัปดาห์เสน่ห์เซี่ยงไฮ้” ที่ไม่ควรพลาด คือโซนประสบการณ์อินเทอร์แอคทีฟอันหลากหลายที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเมืองในรูปแบบใหม่ที่แปลกตาและสนุกสนานให้กับผู้เข้าชม อย่างที่จุดเช็คอิน “เซี่ยงไฮ้–กรุงเทพฯ จูงมือกัน” ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ราวกับมีเวทมนตร์ สามารถ “วาร์ป” ระหว่างสวนอวี้หยวนแห่งเซี่ยงไฮ้กับพระบรมมหาราชวังแห่งกรุงเทพฯ ได้ในชั่วพริบตา สัมผัสความงามแบบวิถีตะวันออกของทั้งสองนคร และความลงตัวระหว่างสองวัฒนธรรม รวมถึงจุดเช็คอิน “วันหยุดของหงอคง” ตัวเอกของภาพยนตร์แอนิเมชันคลาสสิกจากเซี่ยงไฮ้อย่าง “ไซอิ๋ว” กลายร่างเป็นไกด์นำเที่ยวผู้ร่าเริง พาผู้เข้าชมเหาะจากปากอ่าวอูซง ลัดเลาะไปตามแม่น้ำหวงผู่ เห็นวิวริมสองฝั่งซูเหอ เล่นสนุกที่ริมแม่น้ำ ขึ้นไปชมวิวบนหอไข่มุก และยังทักทายผู้คนด้วยคำว่า “หนงห่าว! สวัสดีค่ะ!” พาเข้าสู่การผจญภัยสุดแฟนตาซี

ในโซนนิทรรศการภาพถ่ายนครเซี่ยงไฮ้ยังมีการจัดแสดงภาพเคลื่อนไหวแบบโต้ตอบ ผู้เข้าชมเพียงสั่งการก็สามารถปลุกสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏในภาพวาดให้ “มีชีวิต” และเคลื่อนไหวได้ราวกับร่วมเต้นไปด้วยกัน มอบประสบการณ์ที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และยังมีผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์หลากหลายชนิดได้เข้าร่วมในงานสัปดาห์เสน่ห์เซี่ยงไฮ้ เช่น แพ็กเกจของขวัญที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างเทศกาลโคมไฟอวี้หยวนและ “Shanghai Release” รวมถึงผลิตภัณฑ์ดีไซน์พิเศษจากมหาวิทยาลัยตงหัวในธีมมรดกภูมิปัญญา และผลิตภัณฑ์ลิขสิทธิ์ IP SHANGHAI เป็นต้น สินค้าเหล่านี้ไม่เพียงมีดีไซน์สวยงามน่าใช้ แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและกลิ่นอายของวัฒนธรรมเซี่ยงไฮ้ ถ่ายทอดผ่านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ไปเยือนเซี่ยงไฮ้และเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแนวใหม่ที่รวมทั้งการช้อปปิ้งและวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน

“Summer of Shanghai” เปิดม่าน เชิญชวนชาวไทยร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งมหานคร

โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก “Summer of Shanghai” ณ กรุงเทพฯ ได้จัดงานอันน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิธีเปิด “สัปดาห์เสน่ห์เซี่ยงไฮ้” ได้เปิดเผยไฮไลท์ของเทศกาลบริโภคสากล “Summer of Shanghai 2025” และสิทธิพิเศษต่าง ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยผ่านเทศกาลโคมไฟอวี้หยวน กิจกรรมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนระหว่างจีนกับไทยในด้านการค้า การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม ตลอดจนดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยให้เดินทางสู่เซี่ยงไฮ้มากยิ่งขึ้น เพื่อสัมผัสกับมนต์เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของมหานครแห่งนี้

เทศกาลการบริโภคสากล “Summer of Shanghai” เป็นกิจกรรมสำคัญที่เมืองเซี่ยงไฮ้จัดขึ้นเพื่อผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการบริโภคระดับนานาชาติ โดยจะจัดขึ้นตั้งแต่สุดสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคมไปจนถึงสุดสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคมของทุกปี เซี่ยงไฮ้ได้เชิญชวน ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยประสบการณ์การบริโภคที่หลากหลาย เต็มไปด้วยความแปลกใหม่และน่าประทับใจ

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 เซี่ยงไฮ้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 4.15 ล้านคน เพิ่มขึ้นเกือบ 38% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยมีจำนวนถึงประมาณ 254,000 คน เพิ่มขึ้นถึง 140% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยอดขายสินค้าคืนภาษีในเซี่ยงไฮ้ระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคมสูงถึง 2 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 80% ซึ่งสะท้อนถึงพลังและเสน่ห์ของ “Summer of Shanghai” ได้อย่างชัดเจน

เทศกาลปีนี้ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ธีมใหม่ 14 รายการ และบริการธีมพิเศษอีก 2 รายการ โดยอาศัยประโยชน์จากนโยบายยกเว้นวีซ่า 240 ชั่วโมง ช่วยให้นักท่องเที่ยวขาเข้าได้รับความสะดวกสบายและสิทธิประโยชน์มากยิ่งขึ้นในด้านอาหาร ที่พัก การเดินทาง การท่องเที่ยว การช้อปปิ้ง และความบันเทิง เช่น สายการบิน China Eastern ได้ออกตั๋วโดยสารราคาพิเศษกว่าหนึ่งล้านใบเพื่อลดต้นทุนการเดินทางของนักท่องเที่ยว “Shanghai Pass” บัตรเดียวที่ใช้ได้ทั้งระบบขนส่ง ตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว และส่วนลดพิเศษ สถาบันการเงินอย่าง UnionPay และธนาคารต่าง ๆ ก็ได้ออกมาตรการมากมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายและขอคืนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวขาเข้า

นอกจากนี้จุดแลนด์มาร์กเชิงวัฒนธรรมและพาณิชยกรรม เช่น Yuyuan Mall จัดกิจกรรมหลากหลายและคึกคักให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าร่วมสัมผัสบรรยากาศของเซี่ยงไฮ้อย่างใกล้ชิด เชื่อว่ากิจกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจเหล่านี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวไทยได้ใช้เวลาที่น่าจดจำในเซี่ยงไฮ้ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันสวยงามอย่างไม่มีวันลืม

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

SAM ร่วมงานเสวนา : BAM SYMPOSIUM 

SAM ร่วมงานเสวนา : BAM SYMPOSIUM “ผนึกกำลังขุนพลAMC กู้วิกฤตหนี้ท่วมระบบ”

SAM จัดพิธีแสดงความอาลัย พระพันปีหลวง

SAM จัดพิธีแสดงความอาลัย ถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ก.ล.ต. เผย “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” พุ่งเท่าตัว

ก.ล.ต. เผยสถิติ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” เดือนกันยายน 2568 พุ่งเกือบเท่าตัว สะท้อนประชาชนต้องการรับคำปรึกษามากขึ้น

การบินไทย มอบผ้าห่ม 1,500 ผืน สนับสนุนภารกิจมณฑลทหารบกที่ 22

การบินไทย มอบผ้าห่ม 1,500 ผืน สนับสนุนภารกิจมณฑลทหารบกที่ 22 เพื่อช่วยเหลือประชาชนและสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันอย่างยั่งยืน