นายพิพิธเอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี และมีความตั้งใจในการนำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมาสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศไทยที่อยู่ท่ามกลางความท้าทายของเทคโนโลยีที่กำลังพลิกโฉมภาคธุรกิจและการทำงานในหลายอุตสาหกรรม ทั้งนี้ รายงาน The Future of Jobs โดย จาก World Economic Forum ระบุว่า ก่อนจะถึงปี 2568 พนักงานกว่า 50% ทั่วโลกจะเป็นจะต้องมีการพัฒนาทักษะใหม่ (Reskill) เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทในอนาคต ในขณะที่ข้อมูลจาก Amazon Web Service ระบุว่า 90% ขององค์กรในไทย ต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้านดิจิทัล และ 93% ของบุคลากรในไทยที่สำเร็จการฝึกอบรมทักษะด้านดิจิทัลมีโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้พบว่าแรงงานที่ใช้ทักษะดิจิทัลในไทยสามารถสร้างรายได้มากกว่า 1 ล้านล้านบาท
ธนาคารกสิกรไทยจึงได้เริ่มดำเนินโครงการ SKILLKAMP เพื่อสนับสนุนกลุ่มเป้าหมาย คือ คนทำงานรุ่นใหม่ทั้งที่เรียนและทำงานในสายดิจิทัลและเทคโนโลยีโดยตรง รวมถึงคนที่ไม่ได้เรียนหรือทำงานในสายนี้โดยตรง แต่มีความสนใจและต้องการพัฒนาตนเองเพื่อสร้างโอกาสเติบโตในวิชาชีพ โดยธนาคารได้ออกแบบเวิร์คชอปร่วมกับแพลตฟอร์ม SEEN จาก BASE Playhouse ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ พร้อมประสานความร่วมมือกับองค์กรธุรกิจชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ได้แก่ แอสเซนด์ (Ascend) กสิกร ไลน์ (KASIKORN Line) ไรส์ (Rise) สตอรี่ล็อก (Storylog) และ ไทยเบฟเวอเรจ (ThaiBev) จัดหลักสูตรที่เน้นพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลใน 5 วิชาชีพซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน ได้แก่ 1) Business Analyst 2) Data Analytics and Visualization 3) Front-End Developer 4) Performance Marketing 5) Web Developer โดยได้ผลตอบรับที่ดีมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 2,800 คน และมีผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้รับโอกาสให้นำเสนอโมเดลธุรกิจดิจิทัลกับบริษัทชั้นนำดังกล่าว 45 คน
นายเมธวินปิติพรวิวัฒน์ประธานคณะกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง BASE Playhouse กล่าวว่า BASE Playhouse และธนาคารกสิกรไทยใช้จุดแข็งของทั้งสองฝ่ายในการพัฒนาโครงการนี้ให้เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่มากที่่สุด โดยธนาคารเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำและมีช่องทางกระจายข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้แก่คนรุ่นใหม่ ในขณะที่ BASE Playhouse ได้มีแพลตฟอร์ม SEEN ที่ถูกสร้างจากความเชื่อที่ว่าการเรียนรู้ที่มีความหมาย เกิดจากผู้คนควรรู้ว่าตัวเองเด่นด้านใดและขาดทักษะอะไร เพื่อสร้างเส้นทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตัวเอง SEEN จึงเป็นแพลตฟอร์มวัดระดับความสามารถได้ชัดเจน ตรงจุด และมีความแม่นยำ จากงานวิจัยด้านการเรียนรู้ครอบคลุมทั้ง Hard skill ที่ประเมินทักษะทางวิชาการและ Soft skill ที่จำเป็นต่อการทำงานแต่ละสายอาชีพได้จริงพร้อมระบบป้องกันการทุจริต โครงการ SKILLKAMP จะเป็นพื้นที่สำหรับให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพที่มีในสายงานนั้นได้อย่างเต็มที่
ล่าสุด โครงการ SKILLKAMP ได้ต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว โดยการเปิดแพลตฟอร์มรวบรวมหลักสูตรสำหรับทักษะแห่งอนาคตที่ตลาดแรงงานต้องการบนเว็บไซต์ WWW.SKILLKAMP.COM โดยมีหลักสูตรด้านดิจิทัลให้เรียนฟรีกว่า 250 คอร์สจากผู้พัฒนาหลักสูตรออนไลน์ชั้นนำ 14 แห่ง ได้แก่ 9Expert, BorntoDev, ConicleX, DataRockie, FutureSkill, HACKaTHAILAND, Klasssi, LINE Developers Thailand, PrasertCBS, SkillLane, Thai MOOC, ThaiWinner, WeStride และ Zinglecode โดยเว็บไซต์มีจุดเด่นในการคัดกรองคอร์สที่มีคุณภาพให้คำแนะนำแนวทางพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ในรูปแบบต่างๆ ช่วยประหยัดเวลา และทำให้การค้นหาตรงตามความต้องการ โดยในอนาคตจะมีการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เรียน นำไปสู่การเฟ้นหาบุคลากรที่มีคุณภาพพร้อมร่วมงานกับธนาคารและบริษัทในเครือ
นายพิพิธ กล่าวตอนท้ายว่า ธนาคารเชื่อมั่นว่าผู้เข้าเรียนหลักสูตรในโครงการของ SKILLKAMP จะได้ทั้งความรู้และประสบการณ์ที่ดี และสามารถนำไปต่อยอดในการทำงานปัจจุบัน รวมถึงพัฒนาทักษะต่อไปเพื่อเพิ่มโอกาสด้านการทำงาน นอกจากนี้ จะเป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่มองหาบุคลากรด้านเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาธุรกิจหรือต้องการทำ Digital Transformation สามารถเข้าถึงบุคลากรที่มีคุณภาพและมีคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการ เพื่อเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตต่อไป และร่วมเป็นกำลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในโลกธุรกิจแห่งอนาคต