นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสที่ บริษัทฯ ครบรอบ 72 ปี ที่ดำเนินธุรกิจอย่างเติบโตมั่นคง แข็งแกร่งและมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนเป็นสำคัญ และเหนือสิ่งอื่นใดที่บริษัทฯ มีความพร้อมในการพัฒนาทุกด้านแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการตอบแทนสังคมเสมอมา โดยในโอกาสนี้เมืองไทยประกันชีวิตและมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ได้ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 ดำเนินโครงการ ก่อสร้าง “อาคารเรียนอนุบาล 72 ปี เมืองไทยประกันชีวิต” เพื่อมอบให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยกระแสน ตำบลป่าก่อ อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ โดยเป็นโรงเรียนที่ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปี 2563 ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 3 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนจำนวน 70 คน ครูตำรวจจำนวน 9 นาย ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนชั้นอนุบาล 3 มีความจำเป็นต้องแบ่งการใช้ห้องเรียนในอาคารเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา นอกจากนี้ยังดำเนินโครงการพัฒนาระบบน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภค และกิจกรรมเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โดยทั้ง 2 โครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นประโยชน์แก่นักเรียนจะได้มีสถานที่เรียนที่มีคุณภาพได้มีโอกาสเรียนรู้วิชาการตามความเหมาะสม และเยาวชนจะได้มีพัฒนาการและมีทักษะด้านวิชาการอย่างดีและมีคุณภาพ
ในด้านการพัฒนาระบบน้ำเพื่อให้โรงเรียนสามารถใช้น้ำในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันและผลิตผลทางการเกษตรนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการทางอาหารของนักเรียน การสนับสนุนการพัฒนาระบบน้ำนี้ไม่เพียงเพิ่มโอกาสในการให้น้ำสะอาดให้กับโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรน้ำในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ทำให้โรงเรียนสามารถผลิตอาหารกลางวันที่มีคุณภาพและสมบูรณ์ภายในโรงเรียนเองได้ ไม่เพียงเท่านี้ยังเป็นโอกาสที่นักเรียนจะได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ในการดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำ ทำให้นักเรียนได้รับผลประโยชน์ทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเป็นการสร้างพื้นที่เรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและการใช้ชีวิตของนักเรียนในชุมชน โดยสร้างโอกาสในการพัฒนาทักษะทางการเกษตรและการบำรุงรักษาทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ทันสมัยและใกล้ชิดกับความต้องการของสังคมในปัจจุบันและอนาคต
สำหรับเมืองไทยประกันชีวิต เราตั้งเป้าหมายการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่สังคมไทย ควบคู่ไปกับแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อคืนกำไรสู่สังคม เมืองไทยประกันชีวิตตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาในการสร้างอนาคตที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กในพื้นที่ห่างไกล เราพร้อมสนับสนุนและเสริมสร้างสังคมที่มีความเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา ด้วยความมุ่งหวังที่จะพัฒนาสังคมได้อย่างยั่งยืน เพราะเด็กนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเป็นอีกหนึ่งทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาประเทศไทยต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้เมืองไทยประกันชีวิตและมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อการสนับสนุนและการพัฒนากองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตั้งแต่ปี 2557 รวมเป็นระยะเวลากว่า 9 ปี ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนด้านทุนการศึกษานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในระดับมัธยมศึกษา รวมทั้งสิ้น 324 ทุน เป็นจำนวนเงิน กว่า 11 ล้านบาท การสนับสนุนการสร้างอาคารเรียนตั้งแต่ปี 2564-2566 จำนวน 4 อาคาร ได้แก่ อาคารหอพักนักเรียนบ้านไกล รร.ตชด. บ้านแม่กลองคี ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก อาคารหอพักนักเรียนบ้านไกล รร.ตชด.บ้านโตแฮ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน อาคารที่พักนักเรียนบ้านไกล รร.ตชด.เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา (บ้านหม่องกั๊วะ) ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก และอาคารเรียนอนุบาล รร.ตชด. ปูนอินทรี 50 ปี (บ้านห้วยกระแสน) ต.ป่าก่อ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 3.5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังร่วมสนับสนุนและพัฒนาด้านอื่น ๆอาทิ โครงการพัฒนาระบบน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภคและกิจกรรมเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน 7 แห่ง กว่า 5 แสนบาท
“เมืองไทยประกันชีวิตและมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ขอส่งมอบอาคารเรียนอนุบาล 72 ปี เมืองไทยประกันชีวิต และโครงการระบบน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภคและกิจกรรมเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์ทางการศึกษาต่อไป โดยเรายังคงสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมทั้งด้านการพัฒนาคุณภาพสังคม การส่งเสริมสุขภาพและการออกกำลังกาย การส่งเสริมด้านศิลปวัฒนธรรม ศาสนา ตลอดจนการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประเทศไทยมีการเติบโตอย่างมีคุณภาพในทุกด้าน” นายสาระ กล่าวอย่างภูมิใจ