ทิพยประกันภัย สืบสานศาสตร์พระราชา

Date:

การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้จำกัดอยู่แค่คำสอน หากปรากฏชัดในทุกพระราชจริยวัตรของในหลวงรัชกาลที่ 9 แม้แต่หลอดยาสีพระทนต์ที่บางเฉียบเหมือนกระดาษเพราะถูกบีบจนหมด สะท้อนการใช้ชีวิตอย่างรู้คุณค่า เรียบง่าย และเปี่ยมด้วยความหมายว่า การเปลี่ยนแปลงสังคมไทยเริ่มได้จากการเปลี่ยนตนเองด้วยใจที่พอเพียง

โครงการ “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา” ครั้งที่ 54 ได้เปิดพื้นที่แห่งการเรียนรู้ครั้งใหม่ ณ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี “หลอดยาสีพระทนต์” เป็นจุดเริ่มต้นของบทเรียนสำคัญ
สู่ความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น กิจกรรมในครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สมาคมนักเรียนเก่าเอเอฟเอสแห่งประเทศไทย มูลนิธิธรรมดี พร้อมกับองค์กรภาคีเครือข่าย และนับเป็นครั้งแรกที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ส่งบุคลากรกว่า 30 ท่านเข้าร่วมกิจกรรมในฐานะองค์กรภาคีเครือข่าย เพื่อศึกษาศาสตร์พระราชาอย่างใกล้ชิดและเตรียมนำแนวคิดไปประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความยั่งยืน

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า “ศาสตร์พระราชา…คือทางออกของโลกใบนี้ เป็นแนวทางที่จะช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับประเทศ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างมั่นคง จากภายในสู่ภายนอก” ดร.สมพร ยังเน้นย้ำว่า “ศาสตร์พระราชาคือมรดกทางปัญญาที่ล้ำค่าที่สุด
ของแผ่นดิน พระองค์มิได้ทรงเพียงประทานแนวทาง หากแต่ทรงอุทิศทั้งชีวิตในการลงมือแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างจริงจัง และยั่งยืนด้วยพระองค์เอง พระองค์ทรง ‘ทำให้ดู’ ผ่านพระราชจริยวัตรที่เรียบง่าย สมถะ แต่งดงาม และเปี่ยมด้วยความพอเพียง สมควรอย่างยิ่งที่พวกเราคนไทยควรน้อมนำมาเรียนรู้ และลงมือปฏิบัติ เพื่อประโยชน์
ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติโดยรวม”

ภายในคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เข้าร่วมโครงการได้เยี่ยมชม พิพิธภัณฑสถานวาจวิทยาวัฑฒน์ พิพิธภัณฑ์ด้านทันตกรรมแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งจัดแสดงเครื่องมือทันตกรรมในอดีต ตำราหายาก และกรณีศึกษาทางโรคฟันที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และการแพทย์ โดยจุดสำคัญคือ สถานที่จัดแสดง
“หลอดยาสีพระทนต์” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ถูกบีบจนบางเฉียบ กลายเป็นสัญลักษณ์ทรงพลังของ “ความพอเพียง”
ที่สะท้อนพระราชจริยวัตรอันเรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยวินัย ความใส่ใจ และความรับผิดชอบต่อทรัพยากร

นอกจากนั้น ผู้เข้าร่วมยังได้เรียนรู้ถึง พระราชวิสัยทัศน์ด้านสาธารณสุขแบบองค์รวม ซึ่งได้กลายเป็นแนวทางสำคัญของการพัฒนาวิชาชีพและนวัตกรรมทางการแพทย์ในปัจจุบัน โดยพระองค์เคยมีพระราชดำรัสว่า “เวลาออกหน่วย อย่าดูแต่ฟันอย่างเดียว…ให้ดูร่างกายส่วนอื่นๆ รวมถึงการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยด้วย ถ้าน้ำไม่มี จะให้เขาแปรงฟันวันละสองครั้งได้อย่างไร ถ้าไม่มีถนน จะมาหาทันตแพทย์ปีละสองครั้งได้อย่างไร”

พระราชดำรัสนี้ ชี้ให้เห็นแนวคิดแบบองค์รวม (Holistic Approach) ที่เป็นหนึ่งในหัวใจของ ศาสตร์พระราชา นั่นคือการเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งรอบด้าน มองเห็นความเชื่อมโยงของสาเหตุ และบูรณาการแนวทางการแก้ไขให้
เข้ากับบริบทของผู้คนอย่างแท้จริง จากแนวคิดนั้นเอง ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับการพัฒนาในวงการทันตแพทย์ไทยยุคใหม่ จนเกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ทันตนวัตกรรม” ทั้งในแง่ของ แนวคิด และเทคโนโลยี ทำให้เกิดการพัฒนาด้านการให้บริการ และนวัตกรรม เช่น รากฟันเทียมสำหรับผู้สูงวัยในชนบท การคิดค้นเยลลี่บำรุงฟันสำหรับเด็ก
ที่เข้าถึงยาก น้ำยาบ้วนปากที่ไม่ต้องใช้น้ำตาม หรือแม้กระทั่งระบบการให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่ที่เข้าไปหา
“ผู้มีปัญหา” แทนที่รอให้เขาเดินทางมาหาเรา

จากนั้น คณะผู้เข้าร่วมเดินทางต่อไปยังวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ซึ่งเป็นเสมือนสวนป่าธรรมะกลาง
มหานคร จัดสร้างตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้รับการขนานนามว่า “สวนป่าศาลาพระราชศรัทธา” เป็นสถานที่ที่แม้จะถูกโอบล้อมด้วยตึกสูงและห้างสรรพสินค้าหรูหรา แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความสงบและร่มรื่นจากแมกไม้ใหญ่ และได้รับการสืบสานเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการเจริญสติในปัจจุบัน ทางคณะได้กราบนมัสการพระแสง และพระไสยาสน์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ศิลปะล้านช้างและสุโขทัย ที่ประดิษฐานมาตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 4 กราบสักการะพระเจดีย์แห่งราชสกุลมหิดล และเข้าชมพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่จัดแสดงประวัติและเครื่องใช้ส่วนตัวของพระอริยสงฆ์ผู้เป็นศูนย์รวมศรัทธาของสายพระกรรมฐาน ก่อนเข้าสู่ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด นั่นคือการได้เข้าถึงหัวใจของศาสตร์พระราชา ผ่านการเจริญธรรม การนั่งสมาธิ และสวดมนต์ ณ สวนป่าศาลาพระราชศรัทธา 

นอกจากนี้ ทางโครงการยังจัดให้มีการสัมมนาและเวิร์กช็อปเกี่ยวกับศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ณ ศูนย์การเรียนรู้อเนกประสงค์ อุทยานการเรียนรู้ TK Park ชั้น 8 ศูนย์การค้า centralwOrld โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมแบ่งปันความรู้ อาทิ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารและพัฒนาความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี และอาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม ที่ปรึกษาและอดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย ผู้คิดค้นนวัตกรรมสื่อการสอนสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21 หรือ Interactive Board Game หนึ่งเดียวในโลก เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี 2030

ทางโครงการยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคม ได้แก่ การมอบทุนการศึกษาจากมูลนิธิธรรมดีให้แก่นักเรียนในพื้นที่ การมอบหนังสือจากโครงการ “อมรินทร์อาสา อ่านพลิกชีวิต” เพื่อส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ให้กับโรงเรียนที่มีความต้องการอีกด้วย

ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งต่อไปสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่เฟซบุ๊ก: ตามรอยพระราชา-The King’s Journey โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านจะได้รับประกาศนียบัตรซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาตนเองในการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจากคุรุสภาได้

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

พนักงาน TIP Smart Assist โดยทิพยฯประกันภัย รับประกาศนียบัตร

พนักงาน TIP Smart Assist โดย ทิพยประกันภัย เข้ารับมอบประกาศนียบัตร “พระเกี้ยวธรรมจักร” ด้านการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ประจำปี 2568

ทิพยประกันภัย ร่วมฉลอง Pride Month

ทิพยประกันภัย ร่วมฉลอง Pride Month ด้วยแคมเปญ “PRIDE IS YOURS” เพราะทุกตัวตนควรได้รับการดูแลอย่างเข้าใจ

ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระบรมราชินี

ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

เรียนรู้วิถี โครงการตามรอยพระราชา 

เรียนรู้วิถี "อยู่ร่วมกับป่า" ที่เขาใหญ่ กับ โครงการตามรอยพระราชาครั้งที่ 52