
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยและเทศบาลนครแหลมฉบัง จัดโครงการ “ไทยออยล์ปั้นฝันเยาวชนสู่ความเป็นหนึ่ง เพื่อพัฒนาทักษะด้านกีฬาเทเบิลเทนนิส” ประจำปี 2568 โดยโครงการฯ นี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเพิ่มพูนทักษะและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนในพื้นที่แหลมฉบังพร้อมก้าวสู่เส้นทางนักกีฬาอาชีพ ณ ศาลาประชาคมทุ่งกราด เทศบาลนครแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
โดยได้รับเกียรติจาก คุณสันติ ศิริตันหยง รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง และ ดร.อภิทัย บำรุงพนิชถาวร รองเลขาธิการสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย เข้าร่วมพิธีเปิด “คลินิกฝึกฝนทักษะกีฬาเทเบิลเทนนิส” ในวันแรก เปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีประสบการณ์เรียนรู้จากผู้ฝึกสอนมืออาชีพและ นักกีฬาเยาวชนทีมชาติจากสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย และ กิจกรรมวันที่ 2 มีการจัดแข่งขัน “Thaioil Table Tennis Cup 2025” เพื่อให้เยาวชนในพื้นที่แหลมฉบังและนักกีฬาจากทั่วประเทศ กว่า 130 คน ร่วมประชันฝีมือ โดยมี คุณถิรยุทธ ลิมานนท์ ผู้จัดการฝ่ายกิจการสัมพันธ์ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) คุณสายชล เชาว์ไทย รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง และคุณชูสกุล วารายานนท์ กรรมการบริหารสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย ร่วมมอบเหรียญรางวัลให้นักกีฬาที่ชนะการแข่งขัน
ทุกกิจกรรมของบริษัทฯ มุ่งส่งเสริมสุขภาพ สร้างความสามัคคี และพัฒนาศักยภาพนักกีฬาท้องถิ่นรุ่นใหม่ให้ก้าวสู่ระดับอาชีพ เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในเวทีนานาชาติ นี่คือการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม ควบคู่ไปกับการยกระดับสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
เกี่ยวกับ ไทยออยล์
ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการโรงกลั่นนํ้ามันแบบคอมเพล็กซ์ (Complex Refinery) และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นนํ้ามันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจปิโตรเคมี ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่ทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด และธุรกิจ New S-Curve