จากกรณีที่ตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบ เปิดเผยว่า ราคาการรับซื้อใบยาสูบไม่มีการปรับขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจมากว่า 10 ปีแล้ว สวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 หรือกว่า 12 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ชาวไร่ยาสูบ โดยเฉพาะผู้ปลูกยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนียในภาคเหนือต้องแบกรับค่าปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย น้ำมัน เชื้อเพลิงจากไฟฟ้าและฟืน รวมถึงแรงงาน ที่กลายเป็นตัวเลขรายได้ที่ลดลงทุก ๆ ปี และยังโดนตัดโควตากว่าร้อยละ 50 ติดต่อกัน 6 ปีด้วย ดังนั้น จึงอยากให้การยาสูบแห่งประเทศไทยปรับราคารับซื้อให้คุ้มค่ากับต้นทุนในปัจจุบันเป็นการเร่งด่วนที่สุด นั้น
นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) กล่าวว่า ใบยาสูบไทยเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตบุหรี่ของ ยสท. มีจำนวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เวอร์ยิเนีย เบอร์เลย์ และเตอร์กิซ โดยมีสำนักงานยาสูบภูมิภาคทั้ง 8 แห่ง เป็นผู้รับซื้อใบยาจากชาวไร่ ที่ผ่านมา ยสท. ให้การสนับสนุนชาวไร่ตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูกจนถึงกระบวนการรับซื้อใบยา นอกจากนี้ ยังจัดหาใบยาสูบจากผู้บ่มอิสระอีกจำนวนหนึ่งด้วย ปัจจุบัน ยสท. มีโควตาการรับซื้อใบยาเวอร์ยิเนีย 4.73 ล้านกิโลกรัม ใบยาเบอร์เลย์ 7.1 ล้านกิโลกรัม และใบยาเตอร์กิซ 2 ล้านกิโลกรัม และจากสถานการณ์ใบยาโลก ในปี 2566 ใบยาเบอร์เลย์ในตลาดโลกขาดแคลน ส่วนใบยาเตอร์กิซมีราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดโลก ไทยจึงสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก เพราะเป็นที่ต้องการของตลาด
ในขณะที่ใบยาเวอร์ยิเนียนั้นมีราคาสูงกว่าราคาตลาดโลก จึงยากในการที่จะระบายใบยาออกตลาดโลก ประกอบกับทาง ยสท. มีใบยาเวอร์ยิเนียคงคลังมากกว่า 2.9 ล้านกิโลกรัม ซึ่งทาง ยสท. ยินดีในการแบกรับและช่วยเหลือชาวไร่และผู้บ่มใบยาเวอร์ยิเนีย แต่อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา ยสท. มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการส่งออกใบยาเบอร์เลย์และใบยาเตอร์กิซเป็นหลัก นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ ยสท. มีนโยบายรับซื้อใบยาเบอร์เลย์และใบยาเตอร์กิซจากชาวไร่เพิ่มขึ้นโดยไม่มีขีดจำกัด พร้อมทั้งส่งเสริมการเพาะปลูก ขยายพื้นที่เพาะปลูกและเพิ่มจุดรับซื้อใบยา แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำโดยการสนับสนุนบ่อบาดาลน้ำตื้นและระบบน้ำหยดเพื่อการเกษตร สำหรับชาวไร่ยาสูบเวอร์ยิเนีย ยสท. ได้ให้ความช่วยเหลือโดยการลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยชีวภาพแทนการใช้สารเคมี และพร้อมส่งเสริมให้ชาวไร่ยาสูบเวอร์ยิเนียปรับเปลี่ยนมาปลูกใบยาเบอร์เลย์ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลก นอกจากนี้ ยสท. ยังมีนโยบายที่จะปรับขึ้นราคารับซื้อใบยาสูบเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชาวไร่อีกด้วย
ผู้ว่าการ ยสท. กล่าวทิ้งท้ายว่า เกษตรกรชาวไร่ยาสูบในสังกัดทั่วประเทศ คือครอบครัว ยสท. ที่มีความผูกพันกันอย่างยาวนาน เมื่อเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบต่างๆ เราก็พร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือโดยไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน และ ยสท. พร้อมเปิดรับขึ้นทะเบียนชาวไร่ยาสูบในสังกัดเพิ่มเติม เพื่อมาเป็นครอบครัวเดียวกัน เดินหน้าสืบสานภารกิจต้นน้ำของอุตสาหกรรมยาสูบให้มีความมั่นคงยั่งยืนสืบไป