นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า เหตุผลที่คลังยังไม่ส่งเรื่องการใช้เงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อใช้แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้สำนักงานกฤษฎีกาตีความว่าใช้ได้หรือไม่ เนื่องจากต้องรอรายเอียดของโครงการแจกเงินดิจทัลให้เรียบร้อยเสียก่อน ถึงจะส่งเรื่องไปถามกฤษฏีกาให้ตีความได้
ทั้งนี้ คลังยังมั่นใจมีเวลาเพียงพอในการส่งเรื่องให้ตีความ และไทม์ไลน์ของการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาท ก็ยังเป็นเหมือนเดิม คือ ประชาชนจะได้เงินปลายปีนี้ที่ประกาศไว้
สำหรับแหล่งที่มาของเงิน ที่ใช้แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาท วงเงินทั้งหมด 5 แสนล้านบาท ที่ผ่านมารัฐบาลประกาศไว้จะมาจาก 3 แหล่ง งบฯ ปี 67 จำนวน 175,000 แสนล้านบาท ใช้เงิน ธ.ก.ส. 172,300 ล้านบาท และใช้เงินจากงบฯ ปี 68 จำนวน 152,700 ล้านบาท
ทั้งนี้นอกจากยังมีปัญหาเรื่องการใช้เงินของ ธ.ก.ส. ว่าทำได้หรือไม่ ยังมีปัญหาเรื่องการทำงบกลางปี 2567 วงเงิน 1.25 แสนล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าที่ประกาศไว้ ทำให้ยังต้องหาเงินมาเติมอีก 5 หมื่นล้านบาท ว่าจะเอามาจากที่ไหน ซึ่งรัฐบาลยังไม่เปิดเผย
นอกจากนี้ การพิจารณาทำงบกลางปี 2567 วงเงิน 1.25 แสนล้านบาท ในชั้นของกรรมาธิการ ยังถูกท้วงติงอย่างมากว่า มีเพียงกระดาแผ่นเดียว ไม่มีรายละเอียดของโครงการแจกเงินดิจิทัลเลยว่าจะดำเนินการอย่างไร มีการศึกษาความคุ้มค่าของเม็ดเงินหรือ
ยังไม่รวมกับข้อสังเกตของพรรคฝ่ายค้าน อย่างพรรคก้าวไกล ว่า การทำงบกลางปี 2567 วงเงิน 1.25 แสนล้านบาท เพื่อใช้แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เม็ดเงินส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นงบเพื่อการลงทุน ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ที่เป็นการกู้ไปแจกไม่ได้เป็นการลงทุน จะทำได้หรือไม่
รายงานข่าวจากคณะอนุกรรมกาแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช. เป็นประธาน และมีนายเผาภูมิ ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการอยู่ด้วย ที่มีการประชุมกันบ่อยครั้ง แต่ยังไม่ความคืบหน้าการทำซุปเปอร์แอป บนบล็อกเชน ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้การดำเนินการแจกเงินดิจิทัลไม่ทันตามที่รัฐบาลประกาศไว้ในปลายปีนี้