ถอดบทเรียน รถไฟฟ้าสายสีชมพู ประตูเปิด เพราะกระเป๋าติด

Date:

ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับและบริหารจัดการระบบขนส่งทางราง ครั้งที่ 3/2567 ร่วมกับหน่วยงานผู้ให้บริการระบบรางที่เกี่ยวข้อง ที่ประชุมได้รับทราบเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องประจำเดือนมิถุนายน 2567 จำนวน 8 ครั้ง (รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท 2 ครั้ง สายสีทอง 2 ครั้ง Airport Rail Link 3 ครั้ง และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง 1 ครั้ง)  เกิดจากระบบเบรกขัดข้อง 3 ครั้ง ระบบขับเคลื่อน 2  ครั้ง จุดสับรางขัดข้อง 2 ครั้ง และระบบอาณัติสัญญาณขัดข้อง 1 ครั้ง  พร้อมทั้งที่ประชุมได้ร่วมกันถอดบทเรียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบขนส่งทางรางในเดือนกรกฎาคม 2567 ที่มีผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ รวมทั้งแนวทางในการปรับปรุงและแก้ไขปัญหา โดยมีประเด็นหารือสำคัญ ดังนี้

1. กรณีเหตุการณ์ประตู รถไฟฟ้าสายสีชมพู เปิดบริเวณสถานีลาดปลาเค้า (PK18) เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 07.01 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางรางได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู พบว่า สาเหตุเกิดจากกระเป๋าของผู้โดยสารติดอยู่กับประตูรถไฟฟ้าหมายเลข PM 10 ขณะขบวนรถเคลื่อนที่ออกจากสถานีลาดปลาเค้า มุ่งหน้าศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าได้ยินเสียงดังผิดปกติ จึงได้กดปุ่มหยุดรถฉุกเฉิน และแจ้งเหตุให้ศูนย์ควบคุมการเดินรถรับทราบเหตุการณ์ โดยบางส่วนของตู้สุดท้ายของขบวนรถยังอยู่ในสถานี ศูนย์ควบคุมการเดินรถจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าทำการเปิดประตูเฉพาะบานที่หนีบกระเป๋า โดยการใช้กุญแจประจำขบวนรถ แต่ไม่สามารถไขเพื่อเปิดประตูบานดังกล่าวได้ ศูนย์ควบคุมการเดินรถจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟฟ้ายกเลิกระบบควบคุมรถอัตโนมัติ และเข้าควบคุมขบวนรถด้วยตนเอง ให้เตรียมพร้อมที่จะขับรถย้อนกลับสู่สถานีลาดปลาเค้า เพื่อทำการเปิดประตูรถและนำกระเป๋าที่ติดอยู่ออก ระหว่างนั้นเกิดความเข้าใจผิดในการสื่อสารกับห้องศูนย์ควบคุมการเดินรถ จึงได้ทำการเปิดประตูรถไฟฟ้าฝั่งชานชาลาที่กระเป๋าติดอยู่ ในระหว่างการแก้ไขศูนย์ควบคุมการเดินรถได้เห็นเหตุการณ์ประตูรถเปิดออกผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ก่อนที่เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าจะขับเคลื่อนขบวนรถย้อนเข้าสู่สถานี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าปิดประตูรถทันที พร้อมให้นำกระเป๋าที่ติดกับประตูออก และปรับระบบเดินรถเข้าสู่ระบบอัตโนมัติ หลังจากนั้นขบวนรถไฟฟ้าจึงกลับมาให้บริการได้ตามปกติ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่า ไม่ได้เป็นการขัดข้องของระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลแต่อย่างใด  เหตุเกิดจากประตูหนีบสายสะพายกระเป๋าของผู้โดยสารขณะปิดประตูรถไฟฟ้า ขั้นตอนการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาผิดพลาดเนื่องจากมีแรงกดดันต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลยังคงปลอดภัยอยู่ ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้กำชับผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าต้องดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทราบเหตุฉุกเฉิน ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์  พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ภายในสถานีให้ผู้โดยสารทราบตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ประตูจัดเก็บค่าโดยสาร และเน้นย้ำพนักงานประจำบนขบวนรถไฟฟ้าใช้ระบบประชาสัมพันธ์ผู้โดยสาร (PA) บนขบวนรถให้ผู้โดยสารทราบว่าจะเปิดประตูโดยให้ยืนห่างจากบริเวณประตูก่อนที่จะเปิดประตูรถไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังให้มีการประชาสัมพันธ์เน้นย้ำให้ผู้โดยสารใช้ความระมัดระวังการนำสัมภาระเข้าสู่ขบวนรถ  โดยควรสะพายยกระเป๋า/เป้ไว้ด้านหน้าของตัวเอง และงดใช้โทรศัพท์ขณะเข้า-ออกขบวนรถไฟฟ้า พร้อมทั้งต้องมีการซ้อมแผนเผชิญเหตุในลักษณะดังกล่าว รวมถึงจัดฝึกอบรมและทบทวนการปฏิบัติงานของพนักงานให้เป็นไปตามขั้นตอน (SOPs) อย่างเคร่งครัด และในกรณีฉุกเฉินที่ต้องเปิดประตูรถ ให้ประกาศแจ้งผู้โดยสารให้อยู่ห่างจากบริเวณประตู และดำเนินการด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะเปิดประตูขบวนรถไฟฟ้า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการป้องกันการเกิดเหตุประตูดังกล่าว โดยให้ศูนย์ควบคุมการเดินรถเพิ่มเติมข้อมูลรายละเอียดในการดำเนินการแก้ไขปัญหาแก่พนักงานบนขบวนรถไฟฟ้า และห้ามเปิดประตูในขณะที่ขบวนรถอยู่นอกพื้นที่ชานชาลา พร้อมทั้งปรับปรุงขั้นตอนการปฏิบัติงาน โดยให้มีการขับเคลื่อนรถไฟฟ้ามายังสถานีรถไฟฟ้าครบทั้งขบวนก่อน พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟฟ้าขึ้นไปตรวจสอบบนชั้นชานชาลา เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งว่าขบวนรถไฟฟ้าได้อยู่ในพื้นที่ชานชาลาสถานีทั้งหมดแล้ว จึงจะแจ้งให้ศูนย์ควบคุมการเดินรถสั่งการให้พนักงานประจำขบวนรถไฟฟ้าดำเนินการเปิดประตูได้ จากนั้นพนักงานประจำขบวนรถไฟฟ้าจึงจะเปิดประตูได้ ซึ่งจะทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 

2. การจัดการกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ใกล้สถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link รามคำแหง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เวลา 05.07 น. ที่ผ่านมา  โดยที่ประชุมขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พิจารณาการให้เอกชนที่เช่าใช้พื้นที่ต้องมีมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัยตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด เช่น การเว้นระยะห่างสำหรับเป็นทางอพยพให้เพียงพอต่อผู้โดยสาร การตรวจสอบโครงสร้างและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะนมาใช้ในพื้นที่บริเวณสถานีและใกล้เคียงให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล และตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ การจัดเตรียมให้มีอุปกรณ์ดับเพลิงที่เพียงพอและพร้อมใช้งานได้ตามปกติ รวมทั้งจัดฝึกอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและระงับอัคคีภัยเป็นประจำ นอกจากนี้ ให้ รฟท. ร่วมกับบริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ดำเนินการตรวจสอบและซ่อมบำรุงระบบแจ้งเตือนเพลิงไหม้และอุปกรณ์ดับเพลิงให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ แถลงจับยาเสพติด ประกาศเป็นศัตรูกับผู้ค้า-ผู้ผลิต

นายกฯ แถลงจับยาเสพติด ประกาศเป็นศัตรูกับผู้ค้า-ผู้ผลิต เตือนเยาวชน รับจ้างส่งยามีโทษแรง หมดอนาคต ไม่คุ้มชีวิต

พาณิชย์ ลุยดัน’เนื้อสุรินทร์’ สู่ตลาดโลก

พาณิชย์ลุยสุรินทร์ เดินหน้าผลักดัน GI 'เนื้อสุรินทร์' สู่ตลาดโลก

รมว.พลังงาน สั่งลดราคาน้ำมัน 50 สตางค์ต่อลิตร

รมว.พลังงาน ลดราคาน้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน 50 สตางค์ต่อลิตร เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชน

“ชลัช รัตนบุญนิธิ” นั่งเอ็มดี EXIM BANK คนใหม่

คณะกรรม EXIM BANK ตั้ง “ชลัช รัตนบุญนิธิ” เป็นกรรมการผู้จัดการ คนใหม่