อดีตรมว.คลัง ซัดการเมืองไทยสิ้นหวัง เศรษฐกิจโกงเอื้อพวกพ้อง

Date:

นายสมหมาย ภาษี อดีต รมว.คลัง โพสต์เฟสบุ๊ค ว่า 

การเมืองกับเศรษฐกิจไทยยุคนี้ เรื่องไหนจะตกต่ำกว่ากัน

ได้ฟังข่าวการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ปี 2567 ของประเทศไทยเราในยุคนี้แล้ว สุดแสนที่จะละเหี่ยใจ อนิจจาประเทศนี้กลุ่มผู้บริหารประเทศระดับวุฒิสภาซึ่งในนานาประเทศคือผู้ทรงเกียรติสูงสุด แต่ของไทยการสรรหากลับมาด้วยหนทางที่มาด้วยกลโกงตีแผ่ให้ฟังกันทั่วโลกแบบนี้ แล้วเราจะหาประชาธิปไตยไปคุยให้ต่างประเทศเขาฟังได้อย่างไรหนอ

การสรรหาผู้มีชื่อเสียง มีความรู้มีความสามารถเข้ามาบริหารประเทศในระดับสูงสุดของประเทศนั้นมีกลไกการเข้าไปรับตำแหน่งที่แฝงไว้ด้วยกลไกที่ไม่มีความเป็นธรรมาภิบาลสักนิดเลยหรือ เราจะเห็นความรุ่งเรืองผ่องอำไพในอนาคตของประเทศได้อย่างไรกันครับ มองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์เลยครับ ตรงกันข้ามกลับเห็นแต่ความสิ้นชาติกำลังคืบคลานมาแทน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ฟังข่าวการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก ที่ทำการวิเคราะห์โดยธนาคารโลก ซึ่งที่ทำมาเป็นประจำทุกปีแล้วไม่ค่อยจะผิดเลย ปรากฏว่าในปี 2567 นี้ GDP ของไทยจะโตได้แค่ 2.4 % เท่านั้น ต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม GDP เขาจะโตกัน 4 – 5 % กันทั้งนั้น ของเรามันต่ำแบบนี้มานานเกินแล้วนะครับ

การที่ธนาคารโลกมองเศรษฐกิจไทยว่าโตแบบลิ้นห้อยเช่นนี้ แน่นอนมาจากปัจจัยรุมเร้าหลักสองเรื่องเท่านั้นซึ่งจริงๆแล้วก็ทราบกันดีแล้ว

ประการแรก เป็นเรื่องของโครงสร้างที่ทางเศรษฐกิจพื้นฐานที่เป็นตัวถ่วงตัวฉุดการเติบโตของ GDP ไทยมาเป็นเวลานานนมที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่องจากรัฐบาลใดๆเลย เรื่องตัวฉุดตัวถ่วงทางเศรษฐกิจที่ยากเกินแก้ของไทยได้แก่ หนี้ครัวเรือนที่สูงเกือบเท่า GDP จนเอาไม่อยู่ การผลิตสาขาหลักทั้งด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมของไทยที่ปรับตัวให้มีประสิทธิภาพสูงเพื่อเพิ่มสมรรถภาพการแข่งขันไม่ได้ แรงงานในวัยทำงานเพื่อการผลิตไม่ได้รับการบริหารจัดการเพื่อรองรับการแข่งขันกับประเทศอื่นได้ และการพัฒนาโครงสร้างด้านโลจิสติกส์ เช่น การคมนาคมขนส่งทั้งทางน้ำ ทางบก เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ไม่สามารถสนองการผลิตที่มีประสิทธิภาพให้แข่งขันกับประเทศอื่นได้ เป็นต้น

ประการที่สอง เป็นเรื่องของการมีสภาวะการเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องกลไกการโกงเพื่อเข้าสู่อำนาจ เพื่อยึดโยงอำนาจ และเพื่อใช้อำนาจในทางที่เอื้อประโยชน์แก่พรรคและพวกพ้องมากกว่าในทางที่เอื้อประโยชน์ต่อประเทศชาติแต่อย่างใด จนปรากฏให้เห็นยิ่งชัดเจนในทุกวันนี้ว่าไม่มีนักการเมืองผู้ใดในประเทศนี้ใส่ใจต่อเรื่องธรรมาภิบาลแม้แต่น้อย จะมีนักการเมืองน้ำดีอยู่บ้างก็ถูกสกัดให้ออกนอกวงการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว

อยากถามท่านผู้อ่านที่รักประเทศชาติด้วยความจริงใจทั้งหลายว่าสภาวะการเมืองและเศรษฐกิจของไทยที่ยากต่อการเยียวยาแก้ไขในระยะยาวได้อย่างที่เห็นในขณะนี้ เรื่องไหนจะมีหนทางพลิกฟื้นขึ้นมาได้ก่อนกัน

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

SCB เพิ่มบริการโอนเงินต่างประเทศ

SCB ผนึกกำลัง Thunes เพิ่มเส้นทางบริการโอนเงินต่างประเทศผ่านแอป SCB EASY โอนไวกว่า 26 ประเทศ 17 สกุลเงิน ปลายทางได้รับเงินเต็มจำนวน 

บลจ.เอ็มเอฟซี มอง “ตลาดหุ้นเกิดใหม่” น่าสนใจ

บลจ.เอ็มเอฟซี ส่อง "ตลาดหุ้นเกิดใหม่" น่าสนใจมากขึ้น รับสัญญาณ Fund Flow ไหลเข้าหลัง Fed เริ่มปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรก 

ทีทีบี สนับสนุนผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก

ทีทีบี สนับสนุนผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก เตรียมพร้อมรับมือกับเศรษฐกิจ การค้าโลกและค่าเงินผันผวนในปีหน้า โดยเฉพาะตลาดในเอเชีย

ธอส. พักชำระหนี้ 3 เดือน ให้ลูกหนี้น้ำท่วม

ธอส. ช่วยประชาชนเจอน้ำท่วม พักชำระหนี้นาน 3 เดือน พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 0% ต่อปี 3 เดือนแรก