นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
ทักษิณ คุมเกมเบ็ดเสร็จ : แบ่งแยกแล้วปกครอง
ผมจับชีพจรการเมืองเอื้องการจัดตั้งรัฐบาลหนึ่งจากท่าทีของนายทักษิณชินวัตรซึ่งเป็น ศูนย์กลาง อำนาจตัวจริง สามารถอธิบายทิศทางการเมืองได้ชัดเจนที่สุด ส่วนคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นนายภูมิธรรม เวชชยชัย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ก็เป็นแค่ผู้ช่วยนายทักษิณเท่านั้น เพราะนายทักษิณคือผู้จัดการอำนาจทั้งหมดอย่างเบ็ดเสร็จ
สิ่งที่นายทักษิณออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้คุยกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และติดใจว่าทำไมไม่ไปโหวตเลือกนายกฯ แสดงให้เห็นชัดว่า ความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่างกลุ่มพล.อ.ประวิตรกับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่านั้น นายทักษิณ บอกว่าจะเลือกคนที่ทุ่มเทให้กับรัฐบาลมาโดยตลอด ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า คุณทักษิณจะเลือกฝ่ายไหน จึงทำให้กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส มั่นใจมาก และมีแต้มต่อสูงกว่ากลุ่มพล.อ.ประวิตร เข้าแผนของนายทักษิณที่ต้องการจะเขี่ยพล.อ.ประวิตรออกจากรัฐบาล
บรรยากาศทางการเมืองตอนนี้ สับสนวุ่นวายแบ่งพรรคแบ่งพวก แย่งกันเข้าร่วมรัฐบาลเหมือนกับสัตว์เลี้ยงแย่งชามข้าว ผู้มีอำนาจตัวจริงก็ไม่สนใจว่า คนเข้าร่วมรัฐบาลจะมาทั้งพรรค หรือมาเพียงเสี้ยวหนึ่ง กลุ่มหนึ่ง หรือค่อนพรรค ยิ่งไม่สนใจที่มาของแต่ละพรรค ยิ่งสร้างความขัดแย้ง ยิ่งสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในพรรค ยิ่งเป็นการดี สำหรับการกำหนดเกมของนายทักษิณ
สภาพพรรคร่วมรัฐบาลก็จะเป็นลักษณะพรรคอกแตก เมื่อพรรคพลังประชารัฐมาไม่ครบทั้งพรรค ก็ต้องดึงเอาพรรคประชาธิปัตย์มาเสียบเพิ่ม และพรรคประชาธิปัตย์ก็มาร่วมไม่ครบทั้งพรรค ก็จะเอาเฉพาะที่เหลืออยู่ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ขัดแย้งแตกแยกภายในพรรค สะใจนายทักษิณที่เคยถูกพรรคประชาธิปัตย์เล่นงานมาร่วม20ปี ได้โอกาสเอาคืนแล้ว ยึดหลักการแบ่งแยกแล้วปกครองอย่างแท้จริง
จะเห็นได้ว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่จับฉ่ายมากที่สุด เป็นการรวมตัวของคนที่อยากเป็นรัฐบาล อยากมีตำแหน่ง อยากเข้าไปหาประโยชน์จากการมีอำนาจรัฐกันทั้งนั้น ไม่มีจุดยืนทางการเมืองและอุดมการณ์เดียวกัน เป็นเรื่องการต่อรองเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง และพรรคการเมืองทั้งสิ้น ไม่ได้พูดหรือต่อรองเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของชาติ หรือปัญหาปากท้องของประชาชนเลย