อดีต รมว.คลัง คาด แจกเงินดิจิทัล เป็น เงินสด เสี่ยงขัดกฎหมายงบ 67

Date:

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 

ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟสบุ๊ก “Thirachai Phuvanatnaranubala – – ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ระบุว่า 

กระแสข่าวการปรับเปลี่ยนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการแจกเงินสดกำลังได้รับความสนใจอย่างมาก หลังจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ 1.22 แสนล้านบาท โดยอาจเริ่มแจกให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน อาจไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์เดิมของโครงการที่มุ่งส่งเสริมการใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัล

นายธีระชัย ยังแสดงความกังวลว่า การตัดลดงบชำระหนี้เพื่อนำมาสมทบโครงการนี้ อาจส่งผลกระทบต่อวินัยทางการคลังในระยะยาว พร้อมคาดการณ์ว่าหากยังคงใช้กรอบเวลาเดิมในไตรมาส 4 ของปีนี้ การเริ่มจ่ายเงินอาจล่าช้า เนื่องจากต้องใช้เวลาในการจัดทำระบบ แล ะเตรียมความพร้อม

ทั้งนี้ นายธีระชัย แนะนำให้รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจดำเนินการ โดยคำนึงถึงผลกระทบทั้งในระยะสั้น และ ระยะยาว  รวมถึงความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

นอกจากนี้ นายธีระชัย ยังโพสต์เฟสบุ๊กอีกว่า 

กระสุนด้านดิจิทัลวอลเล็ต-1

คุณทักษิณกล่าวว่า “คนค้านดิจิทัลวอลเล็ตเป็นส่วนหนึ่งของต้มยำกุ้ง” 

ในกระบวนนักวิชาการที่วิจารณ์ดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ผมเป็นคนเดียวที่ทำงานในแบงค์ชาติในช่วงต้มยำกุ้ง ถึงแม้ผมไม่ได้ทำงานด้านต่อสู้ค่าเงินบาท แต่ผมเดาว่า ท่านน่าจะหมายถึงผม

ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็แสดงว่าข้อเสนอแนะต่างๆ ของผมในเรื่องนี้ได้ไปถึงท่านแล้ว จึงขอขอบคุณ ยืนยันว่าการทำงานของผมไม่เสียเปล่า

ผมขอให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมดังนี้

ท่านกล่าวว่า “ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการยิงนก 3 ตัวด้วยกระสุนนัดเดียว 

อันแรกคือกระตุ้นเศรษฐกิจ 

จำเป็นต้องกระตุ้น ประเทศเราโตช้ามานาน GDP น้อยกว่าคนอื่นทั้งหมดโดยเฉลี่ย 

เพราะไม่มีเงินในระบบเกี่ยวข้อง แบงก์ชาติไม่อยากให้แบงก์พาณิชย์เดือดร้อน เพราะถ้าเงินเยอะ แบงก์พาณิชย์ขาดทุน ก็ดูดออก แบงก์พาณิชย์ก็สบายดี แต่จริง ๆ แล้วควรทิ้งเงินไว้ในระบบทางพาณิชย์ส่วนหนึ่ง ให้เขาใช้ความพยายามช่วยเหลือ SME ช่วยเหลือนักธุรกิจ แต่ตรงนี้ก็ต้องหาความพอดี ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ดูด แต่ต้องมีความพอดีว่า แบงก์พาณิชย์ทำงาน ใช้ความพยายามช่วยเศรษฐกิจบ้าง พอมองเห็นว่าเงินไม่พอ รัฐบาลจึงกระตุ้นเศรษฐกิจ”

ผมให้ข้อสังเกตว่า

1 ประเทศไทยโตช้าเพราะปัญหาโครงสร้าง

ท่านกล่าวว่า สาเหตุที่ประเทศไทยโตช้าเพราะแบงค์ชาติอัดปริมาณเงินเข้าระบบน้อยไป แต่ในข้อเท็จจริงนั้น ปัญหาในระบบการเงินเป็นเพียงอาการระยะสั้น 

ในข้อเท็จจริง ปัญหาที่เซาะกร่อนความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยมาเป็นเวลานานนั้น เป็นปัญหาโครงสร้าง เช่น 

-กติกาเอื้ออำนวยธุรกิจใหญ่ให้ผูกขาดมากไป 

-การกระจายรายได้และทรัพย์สินแก่ประชาชนระดับล่างน้อยไป 

-พัฒนาการศึกษาและทักษะแรงงานไม่รองรับการลงทุนไฮเทค 

-กระบวนการยุติธรรมในประเทศไม่เป็นธรรมอย่างแท้จริง มีผู้อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของสังคม เป็นต้น

ถามว่า การแจกเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างได้อย่างไร?

2 โครงการนี้กระตุ้นเศรษฐกิจไม่เท่า “คนละครึ่ง” “เราเที่ยวด้วยกัน”

การแจกเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นแจกเป็นเงินสดแทนนั้น จะไม่สามารถควบคุมการใช้ได้เลย 

-ถ้าคนรับเอาไปเล่นพนันออนไลน์ พายุหมุนก็จะไปเกิดใต้ดิน 

-ถ้าคนรับเอาไปเติมน้ำมัน พายุหมุนก็จะไปเกิดในตะวันออกกลางผู้ขายน้ำมัน 

-ถ้าคนรับเอาไปซื้อโทรศัพท์มือถือ พายุหมุนก็จะไปเกิดในประเทศจีนและเกาหลี เป็นต้น

กรณีที่พายุหมุนไปเกิดนอกประเทศนั้น เท่ากับเป็นการเอาเงินงบประมาณอันแสนจะมีค่าของประเทศไทย ที่ประชาชนช่วยกันมอบให้รัฐบาลด้วยความยากเย็น กลับไปจุนเจือประชาชนและธุรกิจของประเทศอื่น กลับจะมีผลเป็นการ “ตัดเนื้อประชาชนคนไทย เอาไปแปะให้แก่ประชาชนต่างชาติ”

ขอแนะนำให้ท่านสั่งการให้ทีมงานศึกษาโครงการ “คนละครึ่ง” และ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อตีกรอบการใช้เงินให้ลงไปในการซื้ออาหาร การใช้บริการในภัตตาคาร และการพักแรม ซึ่งทำให้พายุหมุนอยู่แต่ในประเทศไทย

นอกจากนี้ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ใช้เงิน 100 บาท ต่อให้เป็นพายุหมุนภายในประเทศทั้งหมด ก็หมุนได้เพียง 100 บาท 

ในขณะที่โครงการ “คนละครึ่ง” และ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งกำหนดให้ประชาชนควักกระเป๋าร่วมใช้จ่ายด้วยนั้น พายุหมุนจะไปได้ถึง 200 บาท

3 งบประมาณอุดหนุนบริโภค จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงชั่วคราว

ต้องเริ่มต้นก่อนว่า การที่ประเทศหนึ่งจะโตได้ในอนาคตนั้น ผลผลิตจีดีพีที่เกิดขึ้นในปีที่หนึ่ง จะต้องไม่เอาไปอุปโภคบริโภคทั้งหมด แต่จะต้องกันส่วนหนึ่งเอาไว้ลงทุน เพราะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ประเทศโตเร็วขึ้นในอนาคต ปีที่สอง ที่สาม ฯลฯ

ในการจัดทำงบประมาณสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น รัฐบาลของคุณเศรษฐาไม่ได้ตัดลดรายจ่ายด้านอื่น ไม่ได้เก็บภาษีหรือรายได้เพิ่มขึ้น เพียงแต่โยกเอางบประมาณจากโครงการเดิมมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

งบประมาณเดิมที่เป็นรายจ่ายประจำ เช่นเงินเดือนข้าราชการ ย่อมไม่สามารถชะลอได้ ดังนั้น งบประมาณเดิมที่สามารถโยกไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จึงน่าจะเป็นงบประมาณเดิมประเภทลงทุน

ถ้าเป็นเช่นนี้ การโยกงบประมาณเดิมประเภทลงทุน เปลี่ยนไปเป็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งส่วนใหญ่ในทางปฏิบัติจะเป็นการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคนั้น ย่อมจะมีผลทำให้ความสามารถในการหารายได้ของประเทศในอนาคตหย่อนลง

4 การโยกงบประมาณ ไม่ได้แก้ปัญหาในระบบการเงิน

การแจกเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้แก้ปัญหาในระบบการเงิน

รัฐบาลคุณแพทองธารควรคุยกับแบงค์ชาติเพื่อเร่งการปรับโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อย โดยให้ระบบแบงค์พาณิชย์ชะลอการนำส่งเงินแก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เป็นการชั่วคราว 5 ปี ตามแนวทางที่ทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐเคยศึกษาและเคยเสนอต่อสาธารณะเอาไว้แล้ว

เรายินดีให้นำไปใช้โดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์

5 ต้องคำนึงถึงกฎหมายวินัยการเงินฯ

ต้องไม่ลืมว่า กฎหมายวินัยการเงินการคลังฯ มาตรา 6-7 บัญญัติบังคับรัฐบาล ในการจัดทำงบประมาณ ต้องพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ

มาตรา 9 บัญญัติบังคับคณะรัฐมนตรี ในการจัดทำนโยบายการคลังและงบประมาณ  ต้องพิจารณาประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับ ความคุ้มค่า และภาระการเงินการคลังที่เกิดขึ้นแก่รัฐ รวมถึงความเสี่ยงและ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐอย่างรอบคอบ

ในการคำนวณความคุ้มค่า พายุหมุนด้านบวกที่จะเกิดขึ้นจากการแจกเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นั้น จะต้องหักพายุหมุนด้านลบที่จะหายไป เพราะโครงการเดิมที่ถูกโยกเอามาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตออกไปเสียก่อน ผลบวกสุทธิจึงอาจจะไม่มาก

นอกจากนี้ มาตรา 9 วรรคสองบัญญัติว่า “คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหารราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว”

ต้องไม่ลืมว่า การแจกเงินตามโครงการนี้ เข้าข่ายการสร้างความนิยมทางการเมืองให้แก่พรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ กรณีที่งบประมาณสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้ตัดลดรายจ่ายด้านอื่น ไม่ได้เก็บภาษีหรือรายได้เพิ่มขึ้น นั้น ย่อมมีผลในทางเนื้อหาเศรษฐกิจ เป็นการกู้หนี้สาธารณะอย่างหนึ่ง

เพียงแต่ไม่ใช่การกู้หนี้สาธารณะโดยตรง แต่ใช้วิธีโดยอ้อม โดยให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตไปเบียดโครงการอื่นชั่วคราว ดังนั้น ในปีต่อไป เมื่อถึงเวลาจะดำเนินโครงการอื่นตามเดิมนั้น ก็จะต้องมีการกู้หนี้สาธารณะเพิ่มสำหรับโครงการดังกล่าวอยู่ดี

โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจึงอาจจะเข้าข่ายก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว เพื่อสร้างความนิยมทางการเมืองให้แก่พรรคเพื่อไทย ถ้าไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า การโยกงบประมาณซึ่งมีผลในทางปฏิบัติเป็นการกู้หนี้สาธารณะทางอ้อมนั้น เกิดผลประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวมอย่างล้นหลามคุ้มค่า

ส่วนตัวของผมเองขอเรียนว่า ผมไม่ขัดข้องถ้าหากรัฐบาลคุณแพทองธาร จะแจกเงินให้แก่กลุ่มเปราะบาง ถึงแม้ตัวผมเองจะเป็นผู้รับภาระในการชำระคืนหนี้สาธารณะในอนาคต แต่ควรคำนึงถึงข้อกฎหมายให้ชัดเจน

Share post:

spot_img

Related articles

ชงครม. แปลงร่าง แจกเงินดิจทัล เป็นเงินสดหมื่นบาท

คลังชงครม. แปลงร่างแจกเงินดิจทัล เป็นเงินสดหมื่นบาท ให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน

ธนาคารไทยเครดิต ชวนมนุษย์เงินเดือน “รวมหนี้ ลดภาระ” 

ธนาคารไทยเครดิต ชวนมนุษย์เงินเดือน “รวมหนี้ ลดภาระ” ด้วยสินเชื่อบุคคลไทยเครดิต พร้อมโปรโมชันดอกเบี้ยต่ำสุด 9.99% ต่อปี นานสูงสุด 5 เดือน 

ซีไอเอ็มบี ไทย ถกเข้ม การค้าและเศรษฐกิจอาเซียน

ซีไอเอ็มบี ไทย – สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนมาเลเซีย ถกเข้ม มุมมองการค้าและเศรษฐกิจอาเซียน

SAM เปิดประมูล ยกทัพทรัพย์เด่นมูลค่ารวม 760 ล้านบาท

SAM เปิดประมูล ยกทัพทรัพย์เด่นมูลค่ารวม 760 ลบ. ไฮไลท์ ‘คอนโด’ ใกล้บีทีเอสอารีย์ ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาบ้านและนักลงทุน เคาะราคา 27 ก.ย.และ 11 ต.ค.นี้

Notice: ob_end_flush(): Failed to send buffer of zlib output compression (0) in /home/ozapeumy/public_html/wp-includes/functions.php on line 5427