นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยว่า “เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่ประสบอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ในฐานะผู้ให้บริการบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส ได้เร่งออก 2 มาตรการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้เป็นการชั่วคราว ได้แก่ มาตรการพักชำระหนี้นานสูงสุด 3 รอบบัญชี สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ, และมาตรการปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนด้วยการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม (ทั้งนี้ ไม่รวมลูกค้าที่ได้รับการช่วยเหลือในมาตรการอื่นสูงสุดอยู่แล้ว) โดยลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ซึ่งประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือ สามารถติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อลงทะเบียนแจ้งความจำนง โดยจะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณี”
มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสำหรับลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีรายละเอียดดังนี้
มาตรการที่ 1: พักชำระหนี้ นานสูงสุด 3 รอบบัญชี สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยพักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 รอบบัญชี ระหว่างเดือนกันยายนถึง 30 พฤศจิกายน 2567 โดยระหว่างเข้าร่วมมาตรการพักชำระดังกล่าว ดอกเบี้ยยังคงคำนวณตามอัตราปกติแบบลดต้นลดดอก
ทั้งนี้ ลูกค้าซึ่งประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือจากโครงการดังกล่าว สามารถติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อลงทะเบียนแจ้งความจำนงตั้งแต่วันที่ 9 – 30 กันยายน 2567 ผ่านทางศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ (ทุกวัน ตลอด 24 ชม.) หรือ Helpline : 02-714-5155 (ในเวลาทำการ จันทร์ถึงศุกร์ 8.30 – 17.30 น.) และจะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณี (การพิจารณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของบริษัท)
มาตรการที่ 2: ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือน ด้วยการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ (ปรับปรุงโครงสร้างหนี้) สำหรับลูกค้าทุกกลุ่มในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม (ทั้งนี้ ไม่รวมลูกค้าที่ได้รับการช่วยเหลือในมาตรการอื่นสูงสุดอยู่แล้ว) โดยลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ สามารถติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อลงทะเบียนแจ้งความจำนง ผ่านทางศูนย์บริการสมาชิกบัตรฯ (ทุกวัน ตลอด 24 ชม.) หรือ Helpline : 02-714-5155 (ในเวลาทำการ จันทร์ถึงศุกร์ 8.30 – 17.30 น.) และจะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณี (การพิจารณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของบริษัท)
