นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม รับมอบหนังสือจากนายสุธรรม จริตงาม สส. พรรคพลังประชารัฐ ดร.ม.ล. กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรค นายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรคและคณะ ยื่นถึงนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ขอให้ทบทวนมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 2333 และกล่าวขอบคุณ สส.ทุกท่านที่มีความห่วงใยความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งทางรัฐมนตรีฯ เอกนัฏ ได้มีการกำหนดนโยบาย “การปฏิรูปอุตสาหกรรม” สร้างอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและปลอดภัยต่อผู้คน ดังนั้นเรื่องมาตรฐานสินค้าที่สำคัญต่อความปลอดภัยผู้โดยสารรถ อย่างเช่นถังก๊าซ CNG ที่ใช้ในยานพาหนะ ยิ่งต้องดูแลมาตรฐานให้เข้มข้น ทันท่วงทีต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะมาตรฐานดังกล่าวถูกประกาศใช้จราจรทางบกมาตั้งแต่พ.ศ. 2548 โดยไม่ได้มีการอัพเดท อย่างไรก็ตามจากนี้จะนำเรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เข้าร่วมประชุมต่อไป
โดยมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 2333 ซึ่งต่างประเทศได้กำหนดมาตรฐาน ECE R110 และ ISO 15501 กำหนดว่า ถังก๊าซ NGV ต้องมีลิ้นเปิดปิดอัตโนมัติ (วาล์วไฟฟ้า) เพื่อควบคุมการรั่วของก๊าซ ท่อก๊าซแตก ทำให้เกิดไฟไหม้ที่เป็นโศกนาฎกรรมไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนที่ผ่านมา เพราะมาตรฐาน มอก. 2333 ของไทย ระบุว่าผู้ติดตั้งเลือกได้ว่าจะใช้ ลิ้นเปิด-ปิดด้วยมือ หรือลิ้นเปิด-ปิดอัตโนมัติ (วาล์วไฟฟ้า) ก็ได้ ดังนั้น รถโดยสารสาธารณะส่วนใหญ่จึงติดตั้งเพียงลิ้นเปิด-ปิดด้วยมือที่ถังแต่ละใบ เพราะมีราคาถูกกว่า เมื่อเกิดอุบัติจึงขาดอุปกรณ์ตัดก๊าซจากหัวถัง เพราะคงไม่มีใครสามารถเอามือไปหมุนลิ้นเปิด-ปิดด้วยมือได้ขณะเกิดเพลิงไหม้ ลิ้นเปิดปิดอัตโนมัติ (วาล์วไฟฟ้า) ประจำหัวถัง ถือเป็นอุปกรณ์จำเป็นในการป้องกันเพลิงไหม้ตามมาตรฐานยุโรป และ ISO
ด้านตัวแทนสส.ผู้ยื่นหนังสือ เห็นว่า การเรียกรถโดยสารเข้ามาตรวจสอบตามระเบียบเดิมที่มีอยู่ จะไม่บรรลุมาตรฐานความปลอดภัยสากลอย่างแน่นอน และการห้ามการมีถังก๊าซ NGV ในห้องโดยสารหรือใต้ท้องรถ ก็ต้องให้เวลาผู้ประกอบการในการแก้ไข แต่การยกเลิกมาตรฐาน มอก. 2333 พร้อมรณรงค์ให้เร่งติดตั้งลิ้นเปิดปิดอัตโนมัติ (วาล์วไฟฟ้า) ที่ถังก๊าซในรถขนส่งสาธารณะจะช่วยป้องกันปัญหาได้อย่างฉับพลัน