นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า จากกรณี “คดีดิไอคอน กรุ๊ป” ที่เป็นคดีฉ้อโกงประชาชน และสร้างความเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมากนั้น เมื่อดูตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 “ฉ้อโกงประชาชน” คือ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 341 “ฉ้อโกง” ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือด้วยการปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ ซึ่งเมื่อคดีถึงที่สุด ก็เป็นดุลยพินิจของศาลที่จะพิจารณาตัดสินโทษ โดยผู้ต้องขังที่เป็นเหล่าบรรดาบอส ทั้งหมดมีสิทธิตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ หากภายในเรือนจำมีความประพฤติดีก็จะมีการพิจารณาตามระเบียบเรื่องการลดโทษ
ทั้งนี้ ตนมองว่า ในคดีที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนควรจะมีการแก้กฎหมายให้เกิดความรัดกุม ป้องกันให้คนไม่กล้ากระทำความผิดไปหลอกลวงผู้อื่นให้เสียทรัพย์และบางรายถึงขั้นเสียชีวิตด้วย โดยได้ปรึกษากับนายจุติ ไกรฤกษ์ สส. บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ถึงการเตรียมข้อมูลข้อกฎหมายที่จะมีการเสนอแก้ไขเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงประชาชน เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรในสมัยหน้าทันที เพื่อให้ทันใช้บังคับในคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว
“แม้ว่ากรมราชทัณฑ์ ให้สิทธิผู้ต้องขัง ตามระเบียบกฎหมาย เพื่อให้โอกาสผู้กระทำผิดกลับตัวเป็นคนดีของสังคม ก็ เป็นสิ่งที่ดี แต่ก่อนที่เรือนจำจะนำเสนอลดโทษให้นักโทษประเภทต่างๆ ต่อคณะกรรมการกรมราชทัณฑ์พิจารณานั้น โดยเฉพาะคดีฉ้อโกงประชาชน เห็นควรว่าจะต้องมีการพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ผู้ต้องขัง ถูกลดโทษ และปล่อยตัวเร็วกว่ากำหนดหลายเท่าทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องปรามให้คน เกรงกลัวกฎหมาย ไม่กล้าทำผิดและไม่กล้าหลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายได้ ผมจึงได้หารือกับนายจุติและฝ่ายกฎหมาย เพื่อจะแก้ไข ในส่วนของเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ในการเสนอพิจารณาลดโทษ ให้เกิดความรัดกุมรอบคอบและเป็นการป้องปรามการกระทำความผิดในอนาคตด้วย“ นายธนกร กล่าว