แจกเงินเด็ก คนละ 600 บาท ตั้งแต่อยู่ในท้อง 4 เดือน

Date:

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ได้เห็นชอบข้อเสนอ “การพัฒนาหลักประกันบริการทางสังคมแก่กลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน” ของคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ (ก.ส.ค.) ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ และตน เป็นรองประธานคณะกรรมการ

สาระสำคัญของข้อเสนอดังกล่าว จำแนกตามกลุ่มเป้าหมาย 5 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มเด็กและเยาวชน  ปรับฐานกลุ่มเป้าหมายโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็นการให้เงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้าโดยไม่ต้องมีการคัดกรองรายได้ของครอบครัว (เดิมครัวเรือนต้องมีสมาชิกที่มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี) เพื่อให้ครอบคลุมและทำให้เด็กได้รับความช่วยเหลือแบบถ้วนหน้า ไม่ตกหล่น และขยายอายุของเด็กให้ครอบคลุม เริ่มจากเด็กในครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 6 ปี (เดิมตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี) ได้รับเงินในอัตรา 600 บาท/คน/เดือน (เท่าเดิม) เพื่อเป็นหลักประกันว่าเด็กทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม แม้ครอบครัวจะมีรายได้ลดลง

พัฒนาระบบการศึกษาและการเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย โดยปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวกับการศึกษา เพื่อขยายระยะเวลาให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษา เป็นเวลา 15 ปี รวมถึงการพัฒนาการการศึกษาทั้งในส่วนของหลักสูตร และการเรียน การสอนให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายและมีคุณภาพมากขึ้นอีกทั้งในกรณีเด็กที่หลุดออกจากระบบในช่วงส่งต่อการศึกษา ควรมีสวัสดิการในการแนะแนวอาชีพและให้คำปรึกษา 

กลุ่มผู้สูงอายุ ปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได อายุ 60-69 ปี เดือนละ 700 บาท อายุ 70-79 ปี เดือนละ 850 บาท อายุ 80-89 ปี เดือนละ 1,000 บาท และตั้งแต่อายุ 90 ปีขึ้นไปเดือนละ 1,250 บาท เพื่อให้เพียงพอต่อค่าครองชีพของผู้สูงอายุในสถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้งมีการส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ของชุมชน และส่งเสริมอาชีพและการจ้างงานผู้สูงอายุที่เหมาะสม 

กลุ่มคนพิการ ปรับเบี้ยความพิการให้สอดคล้องกับค่าครองชีพเป็น 1,000 บาทแบบถ้วนหน้า โดยดำเนินการควบคู่ไปกับการนำคนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ สามารถเข้าถึงสิทธิได้อย่างทั่วถึงเท่าเทียมและเป็นธรรม , การส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนพิการเพิ่มมากขึ้น และ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนพิการ

กลุ่มแรงงาน ยกระดับการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ โดยให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องและขยายสิทธิประกันสังคมที่ตรงตามความต้องการของแรงงานนอกระบบ และการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะ ยกระดับทักษะ เทคโนโลยีสารสนเทศและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องดิจิทัล เพื่อให้การทำงานของลูกจ้างตอบสนองต่อความต้องการของสถานประกอบกิจการและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด

สวัสดิการสำหรับครอบครัว พัฒนาแนวทางสวัสดิการบริการสนับสนุนครอบครัว โดยให้ความสำคัญกับการจัดสวัสดิการที่เหมาะสมกับรูปแบบของครอบครัวที่แตกต่างกัน และออกแบบสวัสดิการที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของครอบครัวแต่ละประเภท เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวสามารถเข้าถึง ได้รับสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

สิงห์ เอสเตท เตรียมเดินหน้าระดมทุนผ่านหุ้นกู้ชุดใหม่

สิงห์ เอสเตท เตรียมเดินหน้าระดมทุนผ่านหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 1 ปี 9 เดือน ชูอัตราดอกเบี้ย [4.20]% ต่อปี เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจอสังหาฯ

KBankเปิดตัว Seamless Travel Payments on Chain 

KBank ร่วมกับ Orbix Technology และ StraitsX เปิดตัว Seamless Travel Payments on Chain ภายใต้โครงการ BLOOM ของธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS)

บัตรเครดิต KBank PLUSTINUM พลัสความคุ้ม

บัตรเครดิต KBank PLUSTINUM พลัสความคุ้ม กิน-เที่ยว-ช้อป ในงาน THE POWER OF PLUS

โออาร์ มอบบัตรน้ำมัน 200,000 บาท หนุนภารกิจช่วยน้ำท่วม

โออาร์ มอบบัตรน้ำมัน 200,000 บาท หนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หาดใหญ่-สงขลา