นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊ก “ปั่นไปไหน – สมชัย ศรีสุทธิยากร” ระบุว่า
ไม่ใช่น้ำผึ้งหยดเดียว
การยื่นหนังสือคัดค้าน MOU.44 และการเดินหน้าเจรจาแบ่งผลประโยชน์ทางทะเลกับกัมพูชาโดนนายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลจะดูแคลนหรือทำเป็นทองไม่รู้ร้อนได้
1. ประเด็นอธิปไตยเหนือดินแดนเป็นประเด็นที่จุดติดได้ เพราะตรรกะ พูดซ้ำเพียงแค่ “วันนี้เกาะกูดเป็นของไทย”นั้นยังไม่พอ เพราะในอดีตเขาพระวิหารก็เคยเป็นของไทย
2. การพร่ำบอกว่า น้ำมันอยู่ใต้ทะเล สมควรรีบนำมาแบ่งอย่างเป็นธรรม ในเมื่อยึดเส้นแบ่งที่ไม่เป็นธรรม จึงยากที่จะให้เชื่อได้ว่า ไทยไม่เสียประโยชน์
3. สนธิ เป็นบุคคลที่มีสื่อในมือ มีมวลชนที่คลั่งไคล้ติดตามในจำนวนพอสมควร รอคอยแค่การสั่งสมกำลังจากน้อยสู่ใหญ่ และผสานแนวร่วมไม่เอาทักษิณให้เป็นปึกแผ่น
4. การทอดเวลา ว่าจะรอ 15 วัน แล้วยื่นต่อรัฐสภาต่อ เป็นการสร้างความชอบธรรมที่ละขั้นและค่อย ๆ สะสมกำลังให้เพียงพอ แม้ยื่นรัฐสภาแล้วก็ยังไม่จบ อาจยื่นองค์กรอิสระต่อ ให้เวลาทอดออกไป และให้สังคมคล้อยตามว่า ทุกกลไกล้วนไม่เป็นผล ดังนั้นจึงพอคาดการณ์ได้ว่า จุดสุดท้ายของเหตุการณ์ลงถนนน่าจะไม่เกินเมษายน 2568
5. จะช้า จะเร็ว หรือจะพัฒนาต่อ ปัจจัยชี้ขาดคือ คนที่จะกดปุ่มหยุดหรือเดินหน้าในขณะที่รัฐบาลเอง อยากหยุด ร้องเพลงถอยดีกว่าตลอด แต่เจ้าของพรรคไม่เข็ด ไม่เรียนรู้อดีต เอาแต่จะกดปุ่มเดินหน้าตลอด
6. MOU.44 งานนี้ ไม่ใช่เรื่องน้ำผึ้งหยดเดียว แต่มาเป็นโอ่งมังกรครับ