นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า จากการประชุม พรรครวมไทยสร้างชาติ ในครั้งนี้นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง
โดยระบุว่า วันนี้ที่ประชุมได้หารือกันใน 2 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย ประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 และประเด็นการเสนอร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข ฉบับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่สภาจะนำเข้าสู่วาระการพิจารณานั้น ทางพรรครวมไทยสร้างชาติยังย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นไปตามจุดยืนเดิมของพรรค ประกอบด้วย
1.ต้องเคารพคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด
2.ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
3.ต้องไม่แตะหรือแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ของรัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด
ดังนั้นการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องยึดไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันและคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา
“ที่สำคัญ คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ทั้งต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญและสิ่งที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ดังนั้นแล้วจะทำประชามติกันกี่ครั้งหรือจะแก้ไขอย่างไร ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องปฏิบัติไปตามกฎหมายนี่คือจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ” นายอัครเดช ระบุ
ส่วนอีกประเด็น คือ การหารือกันถึงร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ… หรือคือร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ฉบับพรรครวมไทยสร้างชาติที่พรรคเสนอเข้าสู่สภาให้พิจารณาเห็นชอบนั้น นายอัครเดช ระบุว่า พรรคได้มอบหมายให้ตนในฐานะที่เป็นวิปรัฐบาลเร่งไปประสานกับวิปรัฐบาล เพื่อขอนำร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพื่อจะได้เร่งนิรโทษกรรมผู้ที่กระทำผิดที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง อย่างไรก็ดีย้ำว่า ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ฉบับพรรครวมไทยสร้างชาติ จะนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ที่กระทำความผิดทางการเมืองเท่านั้น ไม่นับรวมผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาม.112, คดีที่เกี่ยวเนื่องกับการทุจริตคอร์รัปชันและคดีที่เป็นคดีอาญาร้ายแรง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นจุดยืนสำคัญของพรรคมาโดยตลอด โดยพรรครวมไทยสร้างชาติหวังว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและความปรองดองของคนในชาติ