หนีภาษี??: ทางสองแพร่ง

Date:

แจกเงิน
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟสบุ๊ก “Thirachai Phuvanatnaranubala – – ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ระบุว่า

หนีภาษี??: ทางสองแพร่ง

กฎหมายจะถือหลัก substance over form เสมอ 

กล่าวคือ จะยึดหลักความเป็นจริงในเนื้อหาทางเศรษฐกิจ ว่าเป็นอย่างไร

ไม่ใช่เพียงแต่ยึดตามรูปแบบของสัญญา ซึ่งอาจจะทำให้มีการลวงตาได้

กรณีจะพิจารณาว่า นรม มีการหนีภาษีหรือไม่นั้น จึงจะต้องนำเอาหลักฐานสภาพแวดล้อมมาพิจารณาประกอบ

เรียกว่า circumstantial evidence

กรณีนี้ รูปแบบของสัญญา documentary evidence คือ 

สำแดงว่า มีการโอนซื้อขายหุ้น ไม่มีการชำระเงิน แต่ออกตั๋วสัญญาใช้เงินที่ไม่มีกำหนดชำระ และไม่มีดอกเบี้ย

ผมจึงขอให้แนวคิด สำหรับกรมสรรพากร ดังนี้

กรณีจะพิจารณา หลักฐานสภาพแวดล้อมประกอบ ก็ต้องเริ่มต้นตรวจสอบว่า

1 ผู้ที่ขายหุ้นที่ไม่ใช่พ่อแม่ แต่เป็นพี่สาว 2,388 ลบ, พี่ชาย 335 ลบ, ลุง 1,315 ลบ, ป้าสะไภ้ 258 ลบ 

บุคคลเหล่านี้ ได้หุ้นมาในโอกาสอันใด?

บุคคลเหล่านี้ จ่ายเงินซื้อไปอย่างไร? เพราะเป็นเงินที่อาจจะเกินกว่ารายได้คนทั่วไป

ตัวเลขข้างต้น เป็นหน่วย ‘ล้านบาท’ เช่น พี่สาว 2,388,000,000 บาท ไม่ใช่ 2,388 บาท

กรณีที่การได้หุ้นมาของบุคคลเหล่านี้ อาจจะถือเป็นเงินได้ตามประมวลรัษฎากรก็ได้

ถามว่าบุคคลเหล่านี้ ได้เสียภาษีเงินได้ครบถ้วนหรือไม่?

หุ้นเหล่านี้ เป็นทรัพย์ของนักการเมืองรายใด เอามาซุกไว้หรือไม่?

2 ถึงแม้ตั๋วสัญญาใช้เงินไม่มีกำหนดชำระ แต่สามารถเรียกให้ขำระหนี้ได้ เมื่อทวงถาม จึงต้องถามว่า

ผู้ซื้อหุ้นมีความขัดสนเงินทองประการใด จึงไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันที แต่ต้องค้างหนี้ไว้โดยการออกตัวสัญญาใช้เงิน?

หุ้นที่ซื้อจากพี่สาว 2,388 ลบ, พี่ชาย 335 ลบ ในปี 2559 นั้น 

ถามว่าในปี 2559 ผู้ซื้อขัดสนเงินทองประการใด จึงไม่สามารถชำระค่าหุ้นได้ในปีนั้น?

ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 9 ปี ฐานะของผู้ซื้อหุ้น ไม่ได้ดีขึ้น พอที่จะสามารถชำระค่าหุ้นได้หรือ? 

ในห้วงเวลา 9 ปี ผู้ซื้อหุ้นได้มีฐานะร่ำรวยจนมีการซื้อทรัพย์สินอื่นอีกมากมายหรือไม่ ถ้ามี เหตุใดจึงยังไม่สามารถชำระค่าหุ้นได้?

หุ้นที่ซื้อจากลุง 1,315 ลบ, ป้าสะไภ้ 258 ลบ ในปี 2566 

ถามว่าในปี 2566 ผู้ซื้อหุ้นมีฐานะขัดสนเงินทองอย่างไร จึงไม่สามารถชำระค่าหุ้นได้?

3 ถึงแม้ตั๋วสัญญาใช้เงินกำหนดว่าฟรีดอกเบี้ย แต่ ปพพ. มาตรา 7 บัญญัติให้เรียกได้ 3% ต่อปี จึงต้องถามว่า

ตั๋วสัญญาใช้เงินที่เป็นหนี้ต่อพี่สาว 2,388 ลบ, พี่ชาย 335 ลบ ตั้งแต่ในปี 2559 ปพพ. ให้เรียกดอกเบี้ยได้ 3% ต่อปี 

คิดเป็นเงิน 71.64 ลบ และ 10.05 ลบ

ตลอดห้วงเวลา 9 ปี พี่สาวและพี่ชายได้เรียกใช้สิทธิ์ตาม ปพพ. หรือไม่?

ผู้ซื้อหุ้นมีการขัดสนเงินทองอย่างไร จึงไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ย 71.64 ลบ และ 10.05 ลบ ต่อปีได้?

ผู้ซื้อหุ้นมีเงินไปใช้จ่ายส่วนตัวปีละหลายสิบล้าน ตั้งแต่เมื่อไหร่ และเงินไปลงทุนซื้อทรัพย์สินต่างๆมากมาย ตั้งแต่เมื่อไหร่? 

เหตุใดจึงไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ย 71.64 ลบ และ 10.05 ลบ ต่อปีได้?

เนื่องจากประมวลรัษฎากรถือว่า กรณีมีประโยชน์ที่ควรได้ ก็ต้องสำแดงเป็นรายได้เพื่อเสียภาษี จึงต้องถามว่า

ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งมีสิทธิ์เรียกดอกเบี้ย  71.64 ลบ และ 10.05 ลบ ต่อปี 

จึงต้องถือเป็นรายได้ของเจ้าหนี้หรือไม่?

หรือ ผู้เป็นลูกหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน มีภาระต้องเสียดอกเบี้ย 71.64 ลบ และ 10.05 ลบ ต่อปี แต่ได้รับความอะลุ้มอล่วย ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย 

จึงต้องถือเป็นรายได้ของลูกหนี้หรือไม่?

และทำนองเดียวกัน สำหรับตั๋วสัญญาใช้เงินที่เป็นหนี้แก่ลุง 1,315 ลบ, ป้าสะใภ้ 258 ลบ ซึ่ง ปพพ. ให้เรียกดอกเบี้ยได้ 3% ต่อปี

เป็นเงิน 39.45 ลบ และ 7.74 ลบ 

กรมสรรพากรจะต้องพิจารณาว่า ถือเป็นรายได้ของเจ้าหนี้ หรือของลูกหนี้?

นี่เอง ที่มหากาพย์เรื่องทำนองนี้ มักจะเป็นทางสองแพร่ง 

ถ้าตีความไม่ถือว่าเป็นการซื้อขายจริง ก็จะเข้าข่ายเป็นนิติกรรมอำพราง จะเป็นการหนีภาษี

ถ้าตีความถือว่าเป็นการซื้อขายจริง ก็จะเข้าข่ายต้องเรียกภาษีจากรายได้ จากดอกเบี้ยที่พึงมี 

ถ้าไม่เรียกจากเจ้าหนี้ ก็ต้องเรียกจากลูกหนี้

อนึ่ง สำหรับเฟสบุค กรณ์ จาติกวณิช ที่บรรยายตอนหนึ่งว่า 

[อาจจะอธิบายได้ว่าเป็นธุรกรรมภายในครอบครัว คือ ลูกสาวขอติดเงินไว้ก่อน ก็ไม่ผิดปกติที่จะบอกเขาว่า 

‘ไม่เป็นไร มีเมื่อไรค่อยเอามาใช้‘

ส่วนการไม่คิดดอกเบี้ยกับลูกก็เข้าใจได้ (ส่วนกรณีนี้สมเหตุสมผลหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)]

ผมคิดว่า กรมสรรพากรอาจจะไม่ใช้เป็นบรรทัดฐานในการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะ นรม ไม่น่าจะอยู่ในฐานะขัดสนเงินทองมากมายเช่นนั้น 

ต้องไม่ลืมว่า นรม รายงานว่ามีทรัพย์สินมากถึง 13,993,826,903.79 บาท

ผมจึงขอให้ไว้เป็นข้อมูลเพื่อการศึกษา โดยไม่มีการกล่าวหาใดๆ หรือบุคคลใด

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

หม่อมปลื้ม แนะสรรพากร ยกเลิกเก็บภาษีรายรับจากทุกคน

หม่อมปลื้ม แนะสรรพากร ยกเลิกเก็บภาษีรับให้จากทุกคน หากปล่อยให้คนกู้ยืมโดยการออกตั๋ว PN ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย และไม่คิดจะทำไร

บลจ.เอ็มเอฟซี มอบเงินบริจาคสนับสนุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ

บลจ.เอ็มเอฟซี มอบเงินบริจาคสนับสนุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยและจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์

TAKUNI ซุ่มลุยงานหนักเดินตามแผนยุทธศาสตร์

ซีอีโอ TAKUNI ซุ่มลุยงานหนักเดินตามแผนยุทธศาสตร์

เปิด 3 ปมปัญหางานก่อสร้าง ถนนพระราม 2 ถล่ม

“เกรียงยศ สุดลาภา” สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิด 3 ปมปัญหางานก่อสร้าง ถนนพระราม 2 ถล่ม