จี้ ทีมศก. เร่ง “ทรัมป์” ขึ้นภาษีไทยอ่วม 36%

Date:

นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามประกาศคำสั่ง EO กำหนดภาษีนำเข้าต่างตอบแทน โดยจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกรายการเป็นรายประเทศ ที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าด้วยสูง โดยไทยถูกกำหนดภาษีสูงถึง 36 % โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เม.ย.2568 ซึ่งมาตรการดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยอย่างมาก ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตร เช่น สินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ พลาสติก และเคมีภัณฑ์

สินค้าประมง ยางพารา ผลไม้แปรรูป อาหารกระป๋อง  ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า มูลค่าเสียหายจากการขึ้นภาษีดังกล่าวเกือบ 8-9 แสนล้านบาท โดยสหรัฐฯ ถือเป็นตลาดส่งออกอันดับต้น ๆ ของไทย คิดเป็นประมาณ 20% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด คิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของ GDP ประเทศไทย 

ทั้งนี้ จากที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะนำทีมไปเจรจากับสหรัฐฯ ภายใน 2-3 สัปดาห์นั้น ตนมองว่า อาจจะช้าเกินไป ควรจะเร่งรีบเดินทางไปเจรจาให้เร็วที่สุดทันที เนื่องจากมาตรการขึ้นภาษีจะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 9 เม.ย.นี้แล้ว จึงไม่ควรให้มีการขึ้นภาษีไปก่อนแล้วค่อยเจรจาปรับลด เพราะหลายประเทศไม่รอ ได้เริ่มเปิดโต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ แล้ว ดังนั้นทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งทีมเศรษฐกิจควรเร่งในการแก้ปัญหาเจรจาต่อรองให้ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ทางภาครัฐ ภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการส่งออกอย่างรวดเร็ว และต้องมีการเจรจาอย่างมียุทธศาสตร์ที่ดีและสร้างสรรค์ 

นอกจากการเจรจาเพื่อลดการเกินดุลของไทยที่มีต่อสหรัฐแล้ว นายธนกร เสนอให้มีการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้มากขึ้น รวมถึงเสนอให้มีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาวภายในประเทศ 

“รัฐบาลควร จะต้องมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและต้องวางการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ยาวควบคู่ไปพร้อมกัน โดยสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ SME ส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจที่เป็นตัวหลักของไทยที่มีความแข็งแรง เช่น การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมอาหาร สินค้าทางด้านดิจิทัล ส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศให้เข้มแข็ง ลดการพึ่งพาต่างประเทศ และกระจายสินค้าไปยังตลาดใหม่ในเอเชียใต้ แอฟริกาและตะวันออกกลาง ที่ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกประเทศ สามารถที่จะเปิดตลาดใหม่และสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการส่งออกสินค้าของไทยนอกเหนือจากการพึ่งพาสหรัฐ เชื่อว่า แม้เกิดวิกฤติสงครามการค้าทั่วโลก ไทยก็จะสามารถยืนอยู่ได้ และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด” นายธนกร กล่าว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

คาด “วิทัย รัตนากร” ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งปลายปีนี้

คาด “วิทัย รัตนากร” ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งปลายปีนี้

ธ.ก.ส. ยกหนี้ให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย วีรบุรุษทหารกล้า

ธ.ก.ส. มอบความช่วยเหลือครอบครัว จ.ส.อ.ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย วีรบุรุษทหารกล้า ครอบครัว(ภรรยา) ได้รับการ ยกหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทุกสัญญาเงินกู้

เศรษฐกิจไทย ปี 68 โตดีขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 1.5%

ไทยบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ได้รับอัตราภาษีฯ ดีขึ้นที่ 19% หนุนมุมมองเศรษฐกิจไทยปี 68 โต 1.5% 

GMM Music พาแบรนด์ ‘รู้ใจ Gen Z ไม่ต้องเดา’

GMM Music พาแบรนด์ 'รู้ใจ Gen Z ไม่ต้องเดา' สร้าง Impact สูงสุดผ่าน Digital Music Solutions