เตือนรัฐบาลระวังการเจรจาภาษีกับสหรัฐ

Date:

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ในฐานะประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงข่าวถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศรายชื่อประเทศที่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐสูง สำหรับกรณีของไทย สหรัฐอ้างว่ามีภาษีอยู่ร้อยละ 72 สหรัฐจึงจะคิดภาษีตอบโต้ไทยในอัตรากึ่งหนึ่ง คือร้อยละ 36 โดยรัฐบาลไทยกำลังเตรียมจะเจรจากับสหรัฐว่า รัฐบาลต้องระวังในการเจรจาภาษีกับสหรัฐ เนื่องจากมีบันทึกของประธานาธิบดีทรัมป์ฉบับลงวันที่ 13 ก.พ.68 ที่ระบุว่า เพื่อทำให้ประเทศคู่ค้าลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐที่ไม่เป็นธรรม และลดการขาดดุลการค้า ข้าพเจ้าจะใช้แผนภาษีโต้ตอบที่เป็นธรรม โดยสหรัฐจะคำนวณอัตราภาษีของประเทศคู่ค้าซึ่งรวมถึงปัจจัยต่อไปนี้

1.อัตราภาษีนำเข้าจริง ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยคิดภาษีนำเข้าเฉลี่ยไม่ถึงร้อยละ 10 ต่ำกว่าอัตราร้อยละ 72 ที่สหรัฐอ้างอย่างมาก

2.ภาษีอื่นๆ ที่คิดจากสหรัฐ รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม

3.การกีดกันที่ไม่ใช่อัตราภาษี รวมไปถึงการอุดหนุนส่งออก และกฎระเบียบที่สร้างภาระแก่สินค้าสหรัฐ

4.การบริหารค่าเงินฝืนตลาด หรือ การกดค่าแรงต่ำเกินควร 

5.ข้อจำกัดด้านการเข้าถึงตลาด หรือข้อกีดกันอื่นที่ไม่เป็นธรรม

และล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์ได้บรรยายการกีดกันนอกเหนือจากภาษีนำเข้า ประกอบด้วย 1.การบิดเบือนค่าเงิน 2.ภาษีมูลค่าเพิ่ม 3.ราคาส่งออกต่ำกว่าทุน 4.มาตรฐานสินค้าเกษตรที่กีดกัน 5.มาตรฐานด้านเทคนิคที่กีดกัน 6.การละเมิดสิทธิทางปัญญา และ 7.การสวมสิทธิ์เพื่อเลี่ยงภาษีสหรัฐ ดังนั้น ในแรกเริ่มเจรจา จึงควรจะเรียกร้องให้ทีมสหรัฐแสดงตัวเลขชัดเจนเสียก่อนว่า กรณีของไทย สหรัฐได้คำนวณอัตราร้อยละ 72 แยกเป็นแต่ละปัจจัยข้างต้นเท่าใด

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องระวังการปะปนด้านการเมืองและความมั่นคง เนื่องจากเป็นการเจรจาด้านการค้า จึงควรระวังไม่ให้การเจรจาขยายวงไปถึงข้อเรียกร้องในด้านการเมืองระหว่างประเทศซึ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์หลักของชาติและความมั่นคงที่ไม่พึงจะนำมาใช้ในการเจรจาแลกเปลี่ยนทางการค้า

นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงรายได้ค้าบริการ เนื่องจากตัวเลขที่รัฐบาลสหรัฐใช้นั้น เน้นขาดดุลการค้าเฉพาะด้านสินค้า แต่ในด้านการค้าบริการ สหรัฐเกินดุลกับไทยจำนวนมาก และเป็นสัดส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอินเทอร์เนตสูง ดังนั้น จึงต้องมีการคำนึงถึงประโยชน์ของสหรัฐในด้านนี้ซึ่งนับวันมีแต่จะมากขึ้น โดยเฉพาะในอนาคตที่จะมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์กันอย่างกว้างขวางมากขึ้น และต้องครอบคลุมนักลงทุนจากทุกชาติเนื่องจากประเทศไทยให้สิทธิ์ชาวต่างชาติมาลงทุนอุตสาหกรรมกันอย่างเสมอภาค 

“ผลที่ได้จากการเจรจาจึงจะต้องให้ครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมที่มีนักลงทุนจากทุกชาติ ไม่ว่านักลงทุนสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ฯลฯ โดยไทยจะดูแลจัดให้มีการเพิ่มมูลค่าในขบวนการผลิตในไทยที่เหมาะสม” นายธีระชัย กล่าว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ แสดงความเสียใจ ตัวประกันไทยเสียชีวิตในกาซา

นายกฯ แสดงความเสียใจ ตัวประกันไทยเสียชีวิตในกาซา เรียกร้องคืนร่างทั้งหมดกลับสู่ไทย

นิสสัน คว้าสามรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยม

นิสสัน คว้าสามรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2568

“GO Sustainable with krungsri ก้าวเพื่อสังคมที่ยั่งยืนของเรา”

กรุงศรีเดินหน้าแคมเปญการตลาดภายใต้แนวคิด “GO Sustainable with krungsri ก้าวเพื่อสังคมที่ยั่งยืนของเรา”

“จระเข้” ผนึก “แสนสิริ” พลิกโฉมวงการอสังหาฯ

"จระเข้" ผนึก "แสนสิริ" พลิกโฉมวงการอสังหาฯ ผ่านแนวคิด Health & Well-Being Living มุ่งสู่อนาคตการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน