นายกฯ เตรียมบินไปฮานอย ประชุมร่วม ไทย–เวียดนาม

Date:

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ที่กรุงฮานอยอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในที่ 15–16 พฤษภาคม 2568 เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ไทย–เวียดนามสู่ระดับ “หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน” ซึ่งเป็นระดับความสัมพันธ์สูงสุดที่เวียดนามมีต่อประเทศคู่เจรจา โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมการประชุม(JCR) ไทย–เวียดนาม ครั้งที่ 4 กับนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์  นายกรัฐมนตรีเวียดนาม 

นายจิรายุ กล่าวว่า ในการเยือนครั้งนี้ ไทย–เวียดนามจะลงนามเอกสารสำคัญ ประกอบด้วย

แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการยกระดับความสัมพันธ์ไทย–เวียดนามสู่หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน ซึ่งแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของทั้งสองประเทศในการเพิ่มพูนความร่วมมือใน 3 เสาหลัก คือ 

1.การเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน ได้แก่ด้านการเมือง การป้องกันประเทศ และความมั่นคง อาทิ อาชญากรรมข้ามชาติ และยาเสพติดและด้านความร่วมมือในระดับภูมิภาคและนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในเรื่องสันติภาพ ความมั่นคงระหว่างประเทศ 

2.การเป็นหุ้นส่วนเพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ผ่านการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ เพิ่มพูนความร่วมมือด้านแรงงาน การจ้างงาน และสวัสดิการสังคม และการเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานราก SMEs โดยส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การผลิตและห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน รวมถึงสนับสนุนการเข้าถึงตลาดของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นซึ่งกันและกัน และส่งเสริมความเชื่อมโยงเศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล และการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล

3.การเป็นหุ้นส่วนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ได้แก่ ด้านความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ผ่านการเชื่อมโยงสตาร์ทอัพ การทำธุรกรรมข้ามพรมแดน รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้ด้าน AI ดิจิทัล และความมั่นคงทางไซเบอร์

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของไทย กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า (ฉบับปรับปรุง) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า อำนวยความสะดวกทางการค้า การขจัดอุปสรรคที่มิใช่ภาษี การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอาหาร การค้าชายแดน และการลงทุนร่วมระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งความตกลงฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ถึง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างยั่งยืนและสมดุล 

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า สำหรับบันทึกความเข้าใจฉบับปรับปรุงยังครอบคลุมความร่วมมือด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี การพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจสีเขียว พร้อมส่งเสริมการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Committee on Trade: JTC) และจัดตั้งคณะทำงานร่วมในระดับเจ้าหน้าที่ เพื่อผลักดันโครงการความร่วมมือเชิงรูปธรรม และการแลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อกังวลทางการค้าอย่างสม่ำเสมอ

“ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจและการเมืองโลก ขณะนี้ไทยและเวียดนามมีเป้าหมายที่จะกระชับความสัมพันธ์ มุ่งสู่ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจและการค้า รวมไปถึงการผนึกกำลังอาเซียน เพื่อร่วมกันเผชิญหน้ากับการค้าโลกที่อาจจะชะลอตัวจากมาตรการภาษีนำเข้าระดับสูงของสหรัฐฯ ด้วย” นายจิรายุ กล่าว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ส.อ.ท. จับมือ ธปท. ผนึกกำลังรับมือบาทแข็ง–ภาษีสหรัฐฯ

ส.อ.ท. จับมือ ธปท. ผนึกกำลังเสริมเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย รับมือบาทแข็ง–ภาษีสหรัฐฯ–ปัญหาสภาพคล่องธุรกิจ

นายกฯ อนุทิน เผยเดี๋ยวมี คนละครึ่งพลัสเฟส 2

นายกฯ อนุทิน เผยเดี๋ยวมี คนละครึ่งพลัสเฟส 2 หลังปชช.แห่ลงสิทธิ์เต็มเร็ว

กบข. จัดงาน “GPF Fund Fair 2025”

กบข. จัดงาน “GPF Fund Fair 2025” ที่กรุงเทพฯ ส่งเสริมให้สมาชิกวางแผนการเงินเพื่อเกษียณมีสุข

การบินไทย แจงเปลี่ยนกรรมการใหม่ ยึดประโชนย์ของบริษัท

การบินไทย แจงเปลี่ยนกรรมการใหม่ 1 ใน 3 ที่ครบ 3 ปี และอยู่ในตำแหน่งนานที่สุด ยึดหลักกฎหมายและประโยชน์ของบริษัท