
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีไทยเตรียมฟ้องผู้นำกัมพูชาทั้งทางแพ่งและอาญา ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย ว่า เป็นไปตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย แถลงไปเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ซึ่งต้องพิจารณาตามมติของที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในการดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลจะกระทบความสัมพันธ์การเจรจาในกรอบต่างๆ หรือไม่ นายมาริษ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องบริหารจัดการ ซึ่งเรื่องนี้มีทั้ง 2 ด้าน คือ กัมพูชาละเมิดสิทธิต่างๆ ของคนไทย และสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดูรายละเอียด ขณะนี้เป็นเพียงแค่หลักการว่าเราจะพิจารณาดำเนินการ ต้องปล่อยให้มีการฟ้องร้อง และดูความเหมาะสมต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีนักวิชาการกังวลว่าการฟ้องร้องอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ ในฐานะที่เป็นคนกลางจะต้องทำอย่างไร นายมาริษ กล่าวว่า ตนเข้าใจ ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยหลักการหลังจากนี้ต้องคุยกันในรายละเอียดว่าจะดำเนินการขนาดไหน อย่างไร โดยต้องดูผลกระทบในการเจรจาต่างๆ รวมถึงการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพด้วย โดยจะพยายามให้ทุกอย่างสมบูรณ์ที่สุด จึงต้องจัดสมดุลให้ดี
เมื่อถามว่า การที่จะใช้กฎหมายระหว่างประเทศในการดำเนินการกับกัมพูชา จะดำเนินการอย่างไร นายมาริษ กล่าวว่า เป็นไปตามมติของ สมช. ต้องดูรายละเอียดในการฟ้องของกฎหมายไทยว่าจะฟ้องขนาดไหน อย่างไร ซึ่งต้องดูให้ดี ต้องพิจารณา โดยดูเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กัน และต้องทำทุกอย่างให้ราบรื่นที่สุดและดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามที่นายภูมิธรรมพูดตลอดว่าต้องดูความเหมาะสม โดยคำนึงถึงมิติต่างๆ รวมทั้งการต่างประเทศ แต่ขณะเดียวกัน ต้องรักษาอำนาจอธิปไตยและรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย รวมถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศไทยด้วย