
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยวันเดียวกันนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ลาประชุม ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม. 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ได้ลาการประชุม และได้ปรากฏตัวอีกครั้งในวันศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคดีคลิปเสียงเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
ขณะในวันที่ 27 ส.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร มีกำหนดการเป็นประธานการแถลงข่าวการประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม
ด้าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า น.สแพทองธาร ได้ยื่นแถลงปิดคดีเป็นรายลักษณ์อักษรต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีคลิปเสียงตามกำหนดเมื่อวันที่ 25 ส.ค.แล้ว ซึ่งเรามั่นใจว่าทำสิ่งที่ถูกต้องตลอด เพราะฉะนั้นก็เชื่อว่าศาลจะพิจารณาอย่างดี เมื่อถามว่า น.สแพทองธาร จะเดินทางไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองในวันที่ 29ส.ค. หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า นายกฯจะไปหรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับปัญหาของประเทศชาติในขณะนี้ เพราะปัญหาประเทศชาติขณะนี้ยังอยู่เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นการปฏิบัติการทางการทหาร ซึ่งคลี่คลายลงไปมากแล้ว ขณะนี้เป็นเรื่องของการต่างประเทศและเรื่องข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเราทำได้ดี โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ยุโรป คงจะได้ไปพูดถึงกรณีอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งมีการลักลอบฝังทุ่นระเบิดและผิดข้อตกลง Mou43 ซึ่งมีคนเรียกร้องให้ยกเลิก แต่แท้จริงแล้ว Mou43 เป็นเงื่อนไขสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในขณะนี้
นพ.พรหมินทร์ กล่าวอีกว่า กรณีที่กัมพูชาใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์เคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ ดังนั้นการบริหารจัดการของเราต้องให้ทันกับสถานการณ์ การที่ใช้โล่มนุษย์แล้วเข้ามาในดินแดนของไทยผืนแผ่นดินตรงนั้นที่มีการวางลวดหนามหีบเพลงเป็นเขตแดนของประเทศไทย เพราะฉะนั้นเมื่อเข้ามาในดินแดนไทยก็ผิดกฎหมายไทย ขณะนี้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้สั่งการทหาร ตำรวจ และมหาดไทย ร่วมกันเข้ามาปฏิบัติงานแล้ว ปรับรูปแบบต่างๆ แปรเปลี่ยนให้ทันกับสถานการณ์ และในทางต่างประเทศเรื่องข้อมูลข่าวสาร ความเป็นเอกภาพสำคัญ และที่สำคัญที่สุดคือความเป็นเอกภาพของประชาชนไทย เอกภาพของรัฐบาลไทยและทหาร ตนคิดว่าวันนี้สิ่งที่ต้องการคือทำอย่างไรให้คนไทยรวมกันอย่างเป็นเอกภาพเพื่อปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์สำคัญของพี่น้องประชาชนคนไทย
เมื่อถามว่า หากผลคำวินิจฉัยของศาลออก ได้ทั้งบวกและลบ แต่หากผลออกมาเป็นลบ เรื่องที่รัฐบาลกำลังดำเนินการในเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศ จะกระทบมากน้อยแค่ไหน นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ก็ชัดเจน ความประสงค์ของฝั่งตรงข้าม คือสร้างให้ประเทศไทยอ่อนแอ สร้างความขัดแย้งภายในประเทศ และวันนี้จะสังเกตว่ามีความพยายามทำเฟกนิวส์ คนไทยบางคนบางกลุ่มก็ยังใช้การทำเฟกนิวส์สร้างให้เกิดความขัดแย้งและอ่อนแอกันภายใน เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกมาชัดเจน จัดการกับการทำเฟกนิวส์ที่ทำจนล้ำเส้นเกินไป ไปทำแม้กระทั่งกับศาล ตนว่าตรงนั้นสำคัญมาก บางครั้งมัวแต่เล่นผลประโยชน์ทางการเมืองมากเสียกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ ตนว่าสิ่งเรานั้นคือศัตรูที่แท้จริงของคนไทย
เมื่อถามว่า การประชุมครม.วันนี้ น.ส.แพทองธาร จะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า นายกฯเข้าประชุมครม.ผ่านระบบซูม เมื่อถามว่า หากหลังวันที่ 29 ส.ค.น.ส.แพทองธาร ได้กลับมาปฎิบัติหน้าที่สถานการณ์ชายแดนจะคลี่คลายกว่านี้หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า อย่างไรก็แล้วแต่ในฐานะที่เราเป็นรัฐบาลอยู่เราจะปกป้องพื้นแผ่นดินไทย อธิปไตยไทย และผลประโยชน์ของประชาชนไทยถึงที่สุด