เปิดรายละเอียดถ้อยแถลงสันติภาพ ไทย-กัมพูชา

Date:

คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ โดยกระทรวงการต่างประเทศของไทย ว่า

ถ้อยแถลง ผลการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทยและนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

พวกเรา นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย และโดยมีประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นสักขีพยาน ได้พบกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ขอประกาศ ดังนี้

๑. พวกเรายืนยันความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างสองประเทศ ตามที่ได้ประกาศไว้ ณ เมืองปุตราจายา มาเลเซีย เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ และย้ำความมุ่งมั่นอย่างหนักแน่น ในการละเว้นการคุกคามหรือใช้กำลัง การแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติ และการเคารพต่อเขตแดนระหว่างประเทศ และต่อกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกันต่อเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาค บูรณภาพแห่งดินแดนและอัตลักษณ์แห่งชาติของแต่ละประเทศ

๒. พวกเรายืนยันความมุ่งมั่นอย่างหนักแน่นในการยึดมั่น และดำเนินการตามข้อตกลงที่ได้บรรลุร่วมกันในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป

๓. พวกเราได้ลงนามในเอกสารขอบเขตการจัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team: AOT) ซึ่งจะประกอบด้วยบุคลากรจากรัฐสมาชิกอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ พวกเราเรียกร้องให้รัฐสมาชิกอาเซียนให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสมเพื่อให้ AOT ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจให้บรรลุวัตถุประสงค์

๔. นอกจากนี้ พวกเราได้ให้คำมั่นที่จะลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชากับราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ เพื่อบรรลุและสนับสนุนเป้าหมายเหล่านี้ พวกเราได้ตกลงในขั้นตอนดังต่อไปนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อตกลงหยุดยิงจะได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ และเพื่อฟื้นฟูสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน:

• ดำเนินการลดความตึงเครียดทางการทหารภายใต้การสังเกตการณ์และการยืนยันตรวจสอบโดย AOT ซึ่งรวมถึงการถอนอาวุธและยุทโธปกรณ์หนักและทำลายล้างสูงออกจากแนวชายแดน และนำกลับไปยัง ที่ตั้งปกติของหน่วยทหารแต่ละประเทศ ในบริบทดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายจะมอบหมายให้คณะทำงานของแต่ละฝ่ายร่วมกันหารือเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปเรื่องการจัดทำแผนปฏิบัติการที่ปฏิบัติได้และเป็นขั้นตอน ภายใต้การสังเกตการณ์โดยคณะผู้สังเกตการณ์การหยุดยิงชั่วคราว (IOT) และหลังจากนั้นโดย AOT ตามที่กำหนดในเอกสารขอบเขตการจัดตั้ง

• ละเว้นการเผยแพร่หรือส่งเสริมการใช้ข้อมูลเท็จ การกล่าวอ้าง การกล่าวหา และวาทกรรมที่สร้างความเสียหาย ไม่ว่าจะผ่านช่องทางที่เป็นทางการของรัฐบาลหรือช่องทางไม่เป็นทางการ เพื่อลดความตึงเครียด บรรเทาความรู้สึกเชิงลบของสาธารณชน และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการหารืออย่างสันติ

• เห็นพ้องที่จะดำเนินมาตรการสร้างความเชื่อมั่นโดยทันทีและเต็มรูปแบบเพื่อฟื้นฟูและรักษาความเชื่อมั่นความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และสันติภาพตามแนวชายแดน และเพื่อแก้ไขความแตกต่างอย่างสันติ ด้วยความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มิตรภาพ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และร่วมมือเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟู ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ• ประสานงานและดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ชายแดนตามที่ได้ตกลงกันในที่ประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป เพื่อปกป้องชีวิตของพลเรือนและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างสองประเทศ

• ยืนยันความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนและการจัดทำหลักเขตแดน ผ่านสันติวิธีและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยละเว้นการคุกคามหรือใช้กำลัง หรือการกระทำที่เป็นการยั่วยุใด ๆ และตระหนักว่าคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เป็นกลไกทวิภาคีสำหรับการทำงานร่วมกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชายแดนอย่างสันติโดยให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละกลไก โดยให้มีการประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในระดับท้องถิ่น เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ในพื้นที่ให้เป็นไปโดยสันติ ซึ่งรวมถึงประเด็นการรุกล้ำพื้นที่ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ตามแนวทางของผลการหารือในการประชุม JBC ตลอดจนจะยุติกิจกรรมทุกประเภทที่เป็นการขยายขอบเขตข้อพิพาทและเพิ่มความตึงเครียดมากขึ้น

๕. เมื่อมีการดำเนินการตามมาตรการข้างต้นอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะยอมรับว่าเป็นการสิ้นสุดการเป็นปรปักษ์ที่ดำเนินอยู่ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการส่งเสริมความเชื่อมั่นและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไทยจะดำเนินการปล่อยเชลยศึกโดยพลัน

๖. พวกเราตกลงที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือ การแบ่งปันข้อมูล และการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งของการตรวจสอบควบคุมตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพลเมืองของเราทั้งสองประเทศและประชาคมระหว่างประเทศ

๗. พวกเราตระหนักถึงความจำเป็นในการวางแนวทางเพื่ออนาคตที่สดใสที่ไม่ยึดติดกับความขัดแย้งในอดีตรัฐบาลทั้งสองฝ่ายยืนยันความมุ่งมั่นในการแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ โดยเคารพในกฎหมายระหว่างประเทศและสนธิสัญญาและความตกลงที่มีอยู่ สภาวการณ์ต่าง ๆ ได้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้ทั้งสองประเทศมองไปข้างหน้าและเริ่มต้นพัฒนาความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนบ้าน ตามเจตนารมณ์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและ หลักการในกฎบัตรอาเซียนเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติ ซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่บทใหม่ของสันติภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศ

๘. พวกเราแสดงความเชื่อมั่นว่า การหารือครั้งนี้ ซึ่งมีประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย เข้าร่วมและให้การสนับสนุน เป็นรากฐานที่มั่นคงต่อความเคารพ ซึ่งกันและกันและการส่งเสริมสันติภาพในภูมิภาค พวกเรารับทราบด้วยความขอบคุณอย่างยิ่งต่อบทบาทสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ในการเสริมสร้างการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เป็นประโยชน์ระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชาและราชอาณาจักรไทย

ลงนาม ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๔ ฉบับ เป็นภาษาอังกฤษ

นายฮุน มาแนด นายอนุทิน ชาญวีรกูล

นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย

เป็นพยานโดย เป็นพยานโดย

นายอันวาร์ อิบราฮิม นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

สำนักงานสลากฯ เปิดเแผนปี 69 มุ่งเน้นช่วยสังคม

สำนักงานสลากฯ เปิดเแผนปี 69 ลดสลากใบเพิ่มดิจิทัล พร้อมมุ่งเน้นช่วยภาคสังคม

นายกฯ อนุทิน เผย ความสัมพันธ์เขมรต้องใช้เวลา

นายกฯ อนุทิน เผย ความสัมพันธ์เขมรต้องใช้เวลา ตอนนี้เอาเรื่องหยุดยิงก่อน ย้ำ แม้ให้คนชายแดนกลับบ้าน แต่ยังเฝ้าระวังอยู่ 

คลังขอ กกต. ตั้ง “ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์” เป็นผอ.ออมสิน

คลังส่งเรื่องขอ กกต. ตั้ง “ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์” เป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่

แบงก์ชาติ ออกกฎเหล็ก คุมเงินต่างประเทศไหลเข้า ทำเงินบาทผันผวน

แบงก์ชาติ ออกกฎเหล็ก คุมเงินต่างประเทศไหลเข้า ทำเงินบาทผันผวน สั่งสถาบันการเงินตรวจละเอียดตั้งแต่ 2 แสนดอลลาร์