
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงขึ้นในขณะนี้ ว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้เฝ้าติดตามและดูทิศทาง ของฝุ่น PM 2.5 ที่เข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้การเผาตอหรือซังข้าวลดลง เพราะมีมาตรการเกี่ยวกับ การนำฟางข้าวมาแลกปุ๋ย เพื่อลดการเผา ซึ่งปีที่ผ่านมา สามารถลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 30% และในปีนี้ได้ตั้งเป้าให้มากกว่าเดิม โดยร่วมมือกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยให้รถยนต์เก่าสามารถนำมาเปลี่ยนไส้กรอง ในราคาถูก และจะมีการตรวจสอบควันดำบริเวณท่าเรือคลองเตย รวมกับผู้ว่าฯกทม. ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่นกระทรวงพาณิชย์ ที่มีมาตรการนำเข้าข้าวโพดที่ไม่เผาจากประเทศเพื่อนบ้าน
นายสุชาติ กล่าวว่า ในพื้นที่กรุงเทพมหานครปริมาณค่าฝุ่น PM 2.5 จะลดลงอย่างแน่นอน เนื่องจากฝุ่น PM ส่วนใหญ่เกิดจาก ท่อไอเสียของรถยนต์เก่า ขณะเดียวกันในส่วนของอ้อย ที่ยังเป็นปัญหานั้น ทางโรงงานต่างๆได้มีการนำรถตัดอ้อยเข้าไปช่วย เพื่อลดการเผาไหม้ เนื่องจากขาดแคลนแรงงานหลังจากมีการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงจุด Hotspot ในขณะนี้มีเพียง 1-2 จุด ซึ่งถือว่าน้อยมาก เนื่องจากมีชุมชนต่างๆที่อยู่รอบอุทยานมาช่วยเฝ้าระวัง และมีภาคเอกชนช่วยสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันไฟป่า ยืนยันว่ากรมควบคุมมลพิษดูแลอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีการนำดาวเทียมมาตรวจสอบจุด Hotspot ทำให้ทราบว่าลมมาในทิศทางใด จะได้สามารถเตือนภัยโดยระบุพิกัดพื้นที่ได้
นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว กรมควบคุมมลพิษได้ต่อสู้เรื่อง PM 2.5 มาประมาณ 2 สัปดาห์ หากเปรียบเทียบสถิติย้อนหลังแล้ว ลดลงกว่าปีที่ผ่านมา




