
วันที่ 7 ธ.ค. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงในพื้นที่บริเวณ ภูผาเหล็ก – พลาญหินแปดก้อน ส่งผลให้กองทัพภาคที่ 2 จำเป็นต้องดำเนินการโต้ตอบ โดยเกิดการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่องนั้น นายกรัฐมนตรีรับทราบและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สั่งการให้กระทรวงกลาโหม กองทัพ ดำเนินการเพื่อปกป้องอธิปไตย และดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการอพยพไปยังที่ปลอดภัย และดำเนินการตามที่ได้ซักซ้อมไว้
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน อำเภอแนวชายแดนของ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ
อุบลราชธานี ดำเนินการอพยพไปยัง ศูนย์พักพิงตามแผนอพยพประชาชน เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ หน่วยในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอน และมีแนวโน้มที่การปะทะอาจขยายวงกว้าง
นายกฯ อนุทิน พร้อม รมว.กลาโหม บินด่วน ลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา 8 ธ.ค.
วันที่ 7 ธ.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม และคณะ มีกำหนดนำคณะลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ได้แก่ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคง รวมถึงการจัดการพิทักษ์ส่วนหลัง และมาตรการรองรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง หลังจากเกิดเหตุปะทะระหว่างกำลังฝ่ายไทยและกัมพูชาบริเวณภูผาเหล็ก–พลาญหินแปดก้อน ทำให้ต้องยกระดับการเตรียมพร้อมในพื้นที่อย่างเข้มงวด และกองทัพภาคที่2 ได้แจ้งเตือนประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดนให้ดำเนินการอพยพ
เลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ นายอนุทินได้รับรายงานและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยได้แสดงความห่วงใยต่อกำลังพล รวมถึงประชาชนในจังหวัดชายแดน จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการด้านความปลอดภัย พร้อมตัดสินใจลงพื้นที่โดยเร็ว เพื่อรับฟังข้อมูลจากกองทัพและฝ่ายปกครองในพื้นที่จริงเพื่อกำหนดมาตรการสนับสนุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป
“นายกฯกำชับให้กองทัพดูแลกำลังพลส่วนหน้าอย่างเต็มที่ และให้จังหวัดต่าง ๆ เตรียมระบบรองรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะศูนย์พักพิงตามแผนอพยพ การลงพื้นที่ครั้งนี้ก็เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมมาตรการรองรับหากมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทั้งนี้ ข้อมูลจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่าเหตุปะทะเกิดขึ้นเวลา 14.15 น. ของวันที่ 7 ธ.ค. หลังฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนบริเวณภูผาเหล็ก–พลาญหินแปดก้อน ทำให้ฝ่ายไทยตอบโต้ ก่อนสถานการณ์ยุติลงในเวลา 14.50 น. แต่ยังคงประเมินว่ามีความไม่แน่นอนสูง หน่วยในพื้นที่ต้องตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอดเวลา โดยมีรายงานกำลังพลไทยบาดเจ็บ 2 นาย นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการ ทภ.2 ได้แจ้งเตือนประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดนให้ดำเนินการอพยพตามแผน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยการที่นายกรัฐมนตรีเตรียมลงพื้นที่ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ จะมีการหารือถึงมาตรการรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติมต่อไปด้วย




