คลังหั่นจีดีพีไทย 67 โต 2.4% คาดแจกดิจิทัลโตพุ่ง 3.3%

Date:

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.4% (ช่วงคาดการณ์ที่ 1.9 ถึง 2.9%) ขยายตัวจากปี 2566 ที่ขยาย 1.9% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นสำคัญ รวมถึงบทบาทสนับสนุนของนโยบายการคลังในช่วงที่เหลือของปี 

ทั้งนี้ คาดว่าภาคการท่องเที่ยวในปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 35.7 ล้านคน ขยายตัวสูงที่ 26.7% ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง เกิดการจ้างงานและเพิ่มรายได้ประชาชน ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ ทำให้คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวที่ 3.7% ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 3.2 ถึง 4.2%) 

ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.5% (ช่วงคาดการณ์ 3.0 ถึง 4.0%) สำหรับการส่งออกสินค้าจะขยายตัวที่ 2.3%(ช่วงคาดการณ์ 1.8 ถึง 2.8%) โดยคาดว่าการส่งออกสินค้าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง และมูลค่าการนำเข้าสินค้าจะขยายตัวที่ 3.4% (ช่วงคาดการณ์ 2.9 ถึง 3.9%) โดยมีสินค้าทุนขยายตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงการลงทุนภาคเอกชนที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต 

ทั้งนี้ การคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจครั้งนี้ได้ปรับลดลงเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้วของกระทรวงการคลัง ณ เดือน มกราคม 2567 ที่ 2.8% เนื่องจาก 

1 การส่งออกสินค้าที่หดตัวมากกว่าที่คาดการณ์

2 การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัว

3 ภาคการเกษตรได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง

4 ภาคการคลังที่ยังคงใช้การเบิกจ่ายตามงบประมาณตามปี 2566 ไปพลางก่อน

ในด้านเสถียรภาพภายในประเทศอยู่ในระดับมั่นคง โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 0.6% (ช่วงคาดการณ์ 0.1 ถึง 1.1%) ตามการปรับตัวลดลงของราคาสินค้าอาหารบางกลุ่ม อีกทั้งราคาสินค้าในหมวดพลังงานที่ลดลงจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ ขณะที่เสถียรภาพภายนอกประเทศ ดุลบริการมีแนวโน้มจะเกินดุลตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2567 มีแนวโน้มที่จะกลับมาเกินดุล 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1.8% ของ GDP 

โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงต่อจากนี้เม็ดเงินจากงบประมาณปี 2567 จะเริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเร่งขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปี 2567 สำหรับในระยะยาว การพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน กระทรวงการคลังมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับ 1) ความยั่งยืนทางการคลัง (Fiscal Sustainability) มุ่งมั่นในการบริหารจัดการการคลังอย่างรอบคอบ 

โดยคำนึงถึงการใช้จ่ายของรัฐและระดับหนี้สาธารณะอย่างรับผิดชอบ และ 2) การยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทย (Potential GDP) มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศในระดับภูมิภาคและระดับหมู่บ้าน 

นอกจากนี้ หากเม็ดเงินจากโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet สามารถเริ่มมีการใช้จ่ายภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยในปี 2567 ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นที่ 3.3% ต่อปี (กรณีประชาชนใช้จ่ายเม็ดเงินส่วนใหญ่ภายในสิ้นปี 2567)

อย่างไรก็ตาม ยังควรติดตามปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด อาทิ 

1 ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่าง ๆ ที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น 

2 ความผันผวนของตลาดการเงินโลก

3 การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย โดยเฉพาะประเทศจีนจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

เมืองไทยประกันชีวิต ปรับพอร์ตเสริมแกร่ง ส่งท้ายปี 2568

เมืองไทยประกันชีวิต ปรับพอร์ตเสริมแกร่ง ส่งท้ายปี 2568 สร้างโอกาสรับผลตอบแทนช่วงตลาดผันผวน พร้อมเพิ่มกองทุนใหม่ สำหรับลูกค้าเมืองไทยยูนิตลิงค์

ก้าวสู่ปีที่ 74 อย่างมั่นคง ‘ทิพยประกันภัย’

ก้าวสู่ปีที่ 74 อย่างมั่นคง ‘ทิพยประกันภัย’ ผู้นำที่เข้าใจและเคียงข้างคนไทยทุกช่วงชีวิต

“พิพัฒน์” รับข้อเสนอภาคธุรกิจ เร่งแก้ปัญหาโลจิสติกส์–ขนส่ง

“พิพัฒน์” รับข้อเสนอหอการค้าไทย–สภาหอการค้า แก้ปัญหาโลจิสติกส์–ขนส่ง ย้ำพร้อมดูแลทุกจุดติดขัด เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและผู้ประกอบการ

สำนักงานสลากฯ ตรวจ 863 ตัวแทนนิติบุคคลฯ จัดสรรสลากตามเงื่อนไข

สำนักงานสลากฯ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ 863 ตัวแทนนิติบุคคลฯ จัดสรรสลากตามเงื่อนไข พร้อมวางเกณฑ์เพิ่มจุดจำหน่ายสลาก 80 บาทให้สมาชิก