นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง โพสต์ว่า ปชป.ออกมาตำหนิแผนการกู้จาก ธกส.เพื่อมา แจกเงินดิจิทัล บอกว่าซํ้ารอย ‘จำนำข้าว’ ในการสร้างหนี้สะสมมหาศาล จนถึงวันนี้รัฐบาลยังไม่ได้ชำระคืนให้ ธกส.
เพื่อไทย สวนกลับทันทีว่า ก็ทีพวกคุณแจกเงินโครงการประกันรายได้ คุณก็ใช้เงิน ธกส. วันนี้ใช้เงินคืนหรือยัง??
..แต่ผมว่าไม่ตรงประเด็น เพราะจะผิดจะถูกอย่างไร ทั้งจำนำข้าว และประกันรายได้ ล้วนเป็นเรื่องโครงการที่ตรงกับภารกิจตามกฎหมายของ ธกส.(ถึงแม้จะมีปัญหาอื่นตามมา)
ตาม พรบ.ธกส. นั้น ในหมวด 2 มาตรา 9 ได้ระบุวัตถุประสงค์ของ ธกส. ไว้ถึง 17 ข้อ
ทั้ง จำนำและประกันรายได้ เข้าเกณฑ์ตั้งแต่ข้อที่ 1 คือ ‘การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร..สำหรับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม’ และนี่น่าจะเป็นวัตถุประสงค์หลัก โดยที่ก็ยังมีวัตถุประสงค์อื่นๆ อีก 16 ข้อ ว่า ธกส. ทำอะไรได้บ้าง โดยที่ทุกข้อโยงกับการส่งเสริมเกษตรกรในบริบทการทำอาชีพเกษตรกรรม
ที่อ่านแล้วยังไม่ชัดว่ามีข้อไหนเปิดให้ ธกส. ปล่อยกู้ให้รัฐบาลนำมาแจกประชาชนได้ (แม้บางคนมีอาชีพเป็นเกษตรกรก็ตาม) เพราะวัตถุประสงค์การ แจกเงินดิจิทัล ประกาศไว้ชัดว่า ’เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ’ และ ‘เพื่อการบริโภค’ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการ ‘ส่งเสริมการเกษตร’
ก่อนหน้านี้ผมก็เคยคิดว่า รัฐบาลอาจใช้ ธกส.เพื่อการนี้ได้ แต่ว่า ตั้งแต่ปี 2561 มี พรบ.วินัยทางการคลัง ยํ้าประเด็นชัดเจนในมาตรา 28 ว่า รัฐบาลใช้เงินของรัฐวิสาหกิจโดยขัดหรือไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ ไม่ได้
ทำให้ผมกลับไปอ่านกฎหมายจัดตั้ง ธกส.อีกรอบ และผมว่าเรื่องนี้ต้องดูให้ดี ประเด็นนี้ตรงกับที่แบงก์ชาติได้ออกมาเตือน (ผมได้อ่านกฎหมายของธนาคารออมสินด้วย หากจะไปทางนั้นก็ต้องออกพันธบัตร ซึ่งต้องมี พรก. หรือ พรบ.กู้เงินรองรับ..ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้อีก)
ในเมื่อรัฐบาลตั้งใจเดินหน้าโครงการนี้ ทางออกหนึ่งคือรัฐบาลตัดค่าใช่จ่ายอื่นๆ ในงบปี 2568 เพื่อเจียดมาแจกเงินดิจิทัล หรือรอแจกงวดที่สอง ด้วยการใช้งบปี 2569
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นของผมในฐานะอดีตประธาน ธกส.ผู้ที่รัก ผูกพัน และอยากเห็น ธกส. มีกำลังเพียงพอในการทำหน้าที่ดูแลเกษตรกรได้ตามวัตถุประสงค์การจัดตั้ง