นางสาวจารุชา สติมานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHAIR เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล หรือ WHAIR เป็นกองรีทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปัจจุบันลงทุนในทรัพย์สินประเภทโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า โดยทรัพย์สินตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปี 2567 WHAIR มีพื้นที่ทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการในปัจจุบัน 428,818 ตารางเมตร มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 13,121.56 ล้านบาท และทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการในปัจจุบันมีอัตราการเช่าสูงถึง 93.5%
สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHAIR จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูงของกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเป็นจุดเชื่อมต่อด้านการขนส่งสินค้าของประเทศในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง และถนนสายหลัก ทำให้การขนส่งและการกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านของระยะเวลาในการเดินทางและต้นทุน
โดยทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHAIR จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอาคารโรงงาน คลังสินค้า จำนวน 10 ยูนิต ใน 4 โครงการ พื้นที่รวมทั้งหมด 40,172 ตารางเมตร โดยสรุปข้อมูลแยกตามที่ตั้งของทรัพย์สินได้ ดังต่อไปนี้
1. สิทธิการเช่าที่ดินและอาคารประเภทโรงงานจำนวน 6 ยูนิต ประกอบด้วยโรงงานแบบ Detached Building จำนวน 3 ยูนิต และโรงงานแบบ Attached Building จำนวน 3 ยูนิต ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1
2. สิทธิการเช่าที่ดินและอาคารประเภทโรงงานแบบ Detached Building จำนวน 1 ยูนิต ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36
3. สิทธิการเช่าที่ดินและอาคารประเภทโรงงานแบบ Attached Building จำนวน 1 ยูนิต ในโครงการดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์พาร์ค 1
4. สิทธิการเช่าที่ดินและอาคารประเภทคลังสินค้าจำนวน 2 ยูนิต ในโครงการดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์พาร์ค 3
“ความโดดเด่นของกองทรัสต์ WHAIR คือสัดส่วนทรัพย์สินภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมกว่า 90% ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนผลักดันให้เป็นพื้นที่นำร่องในเฟสแรกเป็นต้นแบบ “สมาร์ท ซิตี้” ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนทั้งคนไทย และต่างชาติ ให้ความสนใจเช่าทั้งโรงงานและคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวในระยะยาว นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ศูนย์กลางการดำเนินธุรกิจซึ่งเป็นหัวใจหลักด้านโลจิสติกส์ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย” อีกทั้งนิคมอุตสาหกรรมของ WHA ใน Eastern Seaboard เป็นพื้นที่ลงทุนของกลุ่มคลัสเตอร์ยานยนต์และชิ้นส่วน และเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของประเทศไทย อาทิเช่น BYD, Changan, Mazda, Ford, Isuzu, Great Wall Motor และ MG เป็นต้น ซึ่งการเติบโตขึ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV Cars) ในทำเลนี้ทำให้โรงงานและคลังสินค้าของ WHAIR ได้รับอานิสงค์จากความต้องการพื้นที่เช่าโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า จากธุรกิจที่เป็น Supply Chain ของ ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ
ด้าน นางสาวจิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินแและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ WHAIR เปิดเผยว่า การเพิ่มทุนของกองทรัสต์ WHAIR ในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในจังหวะที่มีสัญญาณเชิงบวกจากการปรับลดของอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลก ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวในดัชนีราคาของกลุ่ม Property Fund & REIT ที่ทยอยปรับตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHAIR ลงทุนเพิ่มเติมในครั้งที่ 5 เป็นโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าสำเร็จรูป ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ปัจจุบันได้รับอานิสงค์จากการย้ายฐานการผลิต และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เป็นอานิสงค์บวกโดยตรงต่อทรัพย์สินประเภทโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าของ WHAIR โดยจะเห็นได้จากทรัพย์สินหลักที่ลงทุนในปัจจุบันที่มีอัตราการเช่า ณ สิ้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมาที่ 93.5% และทรัพย์สินหลักที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 5 มีอัตราการเช่าเต็มพื้นที่ 100% สะท้อนถึงทรัพย์สินที่ดีมีคุณภาพ และศักยภาพในการสร้างรายได้ ทั้งนี้ ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ WHAIR มีมูลค่าทรัพย์สินรวมสูงกว่า 14,000 ล้านบาท และมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 468,990 ตารางเมตร โดยการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งนี้จะเพิ่มรายได้ให้แก่กองทรัสต์ และโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวให้แก่ผู้ลงทุน
ปัจจุบัน สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (แบบไฟลิ่ง) แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์และร่างหนังสือชี้ชวนการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมสำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 4 ให้มีผลบังคับใช้และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนได้ภายในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567