หน่วยปฏิบัติการบินแห่งชาติของไต้หวัน (National Airborne Service Corps – NASC) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย ลงนามในสัญญาสำคัญกับ แอร์บัส เฮลิคอปเตอร์ เพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ เอเอส365 (AS365) ที่มีอยู่เดิม โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติภารกิจ และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติระดับสากล
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว แอร์บัส เฮลิคอปเตอร์ จะดำเนินการอัปเกรดเฮลิคอปเตอร์ AS365 จำนวน 4 ลำของ NASC ให้เป็นรุ่น เอเอส365เอ็น3+ (AS365N3+) พร้อมส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ AS365 มือสองที่ผ่านการตกแต่งและปรับปรุงใหม่อีก 5 ลำ เพื่อให้ฝูงบินทั้งหมดมีมาตรฐานเดียวกันในรุ่น AS365N3+ การอัปเกรดครั้งนี้ครอบคลุมการติดตั้งห้องนักบินกระจก (glass cockpit) ที่รองรับการใช้งานร่วมกับแว่นตาการมองกลางคืน (NVG-compatible, ระบบออโตไพลอตล้ำสมัยพร้อมโหมดค้นหาและกู้ภัย (Search-and-Rescue mode) รวมถึงระบบวิทยุและการสื่อสารที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
กำหนดการส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ที่ได้รับการปรับปรุงจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นขั้นตอนตั้งแต่ปี 2571 และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2573
โครงการปรับปรุงครั้งนี้จะยกระดับฝูงบินให้เป็นไปตามมาตรฐาน AS365N3+ ล่าสุด ช่วยเพิ่มสมรรถนะและขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญ อาทิ การค้นหาและกู้ภัยทางทะเล การบรรเทาสาธารณภัย การลาดตระเวน และการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งสร้างความเป็นเอกภาพของฝูงบินเพื่อสนับสนุนภารกิจต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
เฮลิคอปเตอร์ AS365 ของ NASC ได้เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 2533 โดยปฏิบัติภารกิจสำคัญหลากหลาย อาทิ การค้นหาและกู้ภัย การบรรเทาสาธารณภัย บริการแพทย์ฉุกเฉิน การขนส่ง รวมถึงภารกิจลาดตระเวนและเฝ้าระวังทางอากาศ โดยตลอดระยะเวลาการปฏิบัติงาน ฝูงบินดังกล่าวได้สะสมชั่วโมงบินรวมกว่า 70,000 ชั่วโมง และปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิตกว่า 37,000 ครั้งทั่วไต้หวัน ช่วยชีวิตผู้ประสบภัยได้มากกว่า 2,000 รายในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา ตอกย้ำบทบาทสำคัญของ NASC ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการตอบสนองเหตุฉุกเฉินและภารกิจช่วยเหลือของประเทศ
นายชิง เยน-หยวน (Ching Yen-Yuan) อธิบดีหน่วยปฏิบัติการบินแห่งชาติ กล่าวว่า “เฮลิคอปเตอร์ AS365 มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย ช่วยให้เราสามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงฝูงบินในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ยกระดับความปลอดภัยและสมรรถนะให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล พร้อมเสริมศักยภาพของ NASC ในการนำหน้าและพร้อมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่”
ด้านนายแวงซองต์ ดูบรูเล่ (Vincent Dubrule) หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของแอร์บัส เฮลิคอปเตอร์ กล่าวว่า “ฝูงบิน AS365 ของ NASC คือกำลังสำคัญที่สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจมาอย่างต่อเนื่องกว่า 35 ปี โครงการปรับปรุงครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของแอร์บัสในการส่งมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานจริง ด้วยมาตรฐานใหม่ของ AS365N3+ ฝูงบินที่ได้รับการอัปเกรดจะมอบขีดความสามารถ ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยที่สูงขึ้น เพื่อรองรับภารกิจสำคัญอย่างยั่งยืนในอนาคต”
ทั้งนี้ ฝูงบินที่ได้รับการปรับปรุงจะได้รับประโยชน์จากโปรแกรมดูแลและบริหารฝูงบินอย่างครบวงจรเพื่อเพิ่มความพร้อมใช้งาน (Fleet Availability) ของแอร์บัส ซึ่งครอบคลุมบริการบริหารจัดการฝูงบิน การบำรุงรักษา และการจัดการโลจิสติกส์แบบครบวงจรตลอดอายุการใช้งาน
