นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และประธานกรรมการ บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (เควิชั่น) เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ของธนาคารโลก เวียดนามมีการเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ที่ 6-7% ช่วงก่อนโควิด-19 และด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 97 ล้านคนที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนชนชั้นกลางรวดเร็วที่สุดในอาเซียน รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ขยายตัวในเวียดนาม ทำให้โอกาสในการเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพดิจิทัล อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพในเวียดนามยังมีการโตต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) อยู่ที่ 10.4% ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้
แต่เนื่องจากอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพในเวียดนามยังมีจุดอ่อนอยู่หลายจุดรวมถึง การขาดแคลนบุคคลากรทางการแพทย์ ความแออัดของโรงพยาบาล และการรอคอยการได้รับการรักษาที่ยาวนานในโรงพยาบาลรัฐ ทำให้เกิดธุรกิจ สตาร์ทอัพผู้ให้บริการบริการเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ หรือ HealthTech ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจเก่า ๆ ในตลาดจำนวนมาก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการดิจิทัลในเวียดนามให้เข้าถึงการดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และด้วยราคาที่เหมาะสมยิ่งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลเอกชนต่าง ๆ
เควิชั่น จึงได้ร่วมลงทุนใน Jio Health แพลตฟอร์ม HealthTech แบบบูรณาการทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในเวียดนาม ด้วยศักยภาพการทำธุรกิจทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ Jio Health ถือเป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพสูง มีจำนวนผู้ใช้บริการมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดทุกเดือน ด้วยบริการเชิงการตรวจและดูแลสุขภาพมากมาย ที่เข้าถึงการใช้งานของคนวัยทำงานและชนชั้นกลางในประเทศเวียดนาม
นอกจากนี้ กลุ่มผู้บริหารของ Jio Health เป็นผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพและยา รวมถึงความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีและการบริหารธุรกิจสตาร์ทอัพในต่างประเทศ การลงทุนในครั้งนี้จะเป็นโอกาสทำให้ธนาคารกสิกรไทยในเวียดนามสามารถทำงานร่วมกับ Jio Health ในการสร้างการบริการทางสุขภาพให้กับประชากรในประเทศเวียดนามได้ดีขึ้น เพื่อให้การเข้าถึงง่ายขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงการเข้าถึงการทำธุรกรรมทุกรูปแบบให้กับทุกจุดชำระเงินของลูกค้าและการปล่อยสินเชื่อให้กับบุคคลที่ต้องการในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพและยา
โดยกลุ่มเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อของ Jio Health คือกลุ่มคนที่อยู่ในวัยทำงาน อยู่ในกลุ่มคนชนชั้นกลางที่มีประวัติการใช้เงินที่ดี และผู้ประกอบการรายย่อย อย่างเช่นร้านขายยาที่ต้องการต้นทุนในการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ การลงทุนในครั้งนี้ เควิชั่นได้ลงทุนผ่านบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด ซึ่งเป็น Venture Capital ของธนาคารกสิกรไทย
ด้าน นายรากู ไร ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Jio Health กล่าวเพิ่มเติมว่า Jio Health Jio Health เปิดให้บริการมา 4 ปี และมีฐานผู้ใช้งานและเครือข่ายบริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยรูปแบบบริการสุขภาพครบวงจรที่ปฏิรูปธุรกิจด้านสุขภาพในประเทศเวียดนาม ทั้งการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ บริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ (E-prescriptions) ที่ผู้ป่วยสามารถใช้งานได้สะดวกผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ และบริการสุขภาพผ่านช่องทางออฟไลน์ ในรูปแบบบริการสมาร์ทคลินิก (Smart clinics) แฟรนไชส์ร้านขายยา (Jio-branded neighborhood pharmacies) บริการสุขภาพตามความต้องการในเคหสถาน (On-demand home care) รวมถึงบริการสุขภาพเฉพาะทางอื่นๆ โดยการระดมทุนรอบ Series B นี้ของ Jio Health ได้รับเงินทุนมาจาก Venture Capital รวม 4 บริษัท ได้แก่ Heritas Capital (Private equity firm ระดับภูมิภาคอาเซียน), Monk’s Hill Ventures (Venture capital ระดับภูมิภาคอาเซียน), Fuchsia Venture Capital (Venture capital ของ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต) และกสิกรวิชั่น หลังการระดมทุนรอบนี้ Jio Health ตั้งเป้าหมายที่จะรักษาการเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HealthTech) ของประเทศเวียดนาม