นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีต สส. และประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจสภาผู้แทนฯ กล่าว จี้เศรษฐา เร่งแก้ไขเศรษฐกิจอย่ามัวแก้ตัว ว่า จากรายงานผลการสำรวจจัดอันดับประเทศที่เหมาะกับการทำธุรกิจของ EIU หรือสถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจและการเมือง ในการจัดอันดับของ EIU ประเมินจากความน่าดึงดูดในการทำธุรกิจของประเทศและเขตแดน 82 แห่งทั่วโลก และพิจารณาจากดัชนีบ่งชี้ในด้านต่าง ๆ เช่น เงินเฟ้อ ค่าครองชีพ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และนโยบายการคลัง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่สามารถดึงดูดการทำธุรกิจ และการลดข้อจำกัดด้านกฎระเบียบทางการค้าต่างประเทศและการลงทุน ในขณะประเทศสิงคโปร์คว้าอันดับ 1 ประเทศน่าทำธุรกิจติดต่อกัน 16 ปี แต่ประเทศไทยที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันกลับไม่ติดอันดับ
ประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมืองในสายตานักลงทุนถือเป็นประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุนและทำธุรกิจ รัฐบาลของประเทศเหล่านั้นมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือบริษัทเอกชนในการยกระดับด้านเทคโนโลยี ในขณะที่ประเทศไทยยังติดกับดักผู้มากบารมี สิ่งที่น่าเศร้าใจถ้อยแถลงของผู้นำประเทศต่อสาธารณะที่กล่าวว่าประชาชนสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ด้วยเงินดิจิตอล 10,000 บาท ถือเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์การบริหารประเทศที่ฉาบฉวย
อยากจะย้ำให้นายกไปพิจารณาเรื่องของคำว่าเสถียรภาพทางการเมืองซึ่งมิได้หมายความถึงแค่เสียงส่วนใหญ่ในสภาแต่หมายความถึงความน่าเชื่อถือและเอกภาพคือการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีที่ทุกคนมองว่านายกรัฐมนตรีมีตัวจริงแต่มีอำนาจทิพย์เพราะมีอดีตนายกและอนาคตนายกประกบข้างการทำงานตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามยังมองว่าหลังจากนายกบริหารประเทศมาหกเดือนกว่าก็ยังมีเวลาที่จะแก้ไขปรับปรุงสิ่งต่างๆไม่ควรใช้เวลาไปกับการตอบโต้คำพูดทางการเมืองในสภาเหมือนในการประชุมในสภาที่ผ่านมา สิ่งสำคัญคือเรื่องคำพูดสัญญาต่อประชาชนในโครงการเรือธงของรัฐบาลหากมีการเลื่อนออกไปอีกก็ถึงเวลาควรพิจารณาตัวเองตัดสินใจลาออกเพราะก็ครบ 1 ปีในการทำงานพอดี
นายกรัฐมนตรีควรมีวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศที่เป็นรูปธรรม และเป็นนโยบายของตัวเองโดยไม่จำเป็นรอคำสั่งจากผู้นำหลังฉาก หันมาสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีความมีความปลอดภัย มีนโยบายด้านเทคโนโลยีที่ชัดเจน และสร้างการค้าการลงทุนจากต่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับการลงทุน และทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน